นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ประชุมมอบนโยบายการขับเคลื่อน Soft Power แก่เครือข่ายงานด้านวัฒนธรรม โดยมีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประธานสภาวัฒนธรรมเขตและผู้แทนประธานสภาวัฒนธรรมเขตในกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต เข้าร่วมที่กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขอความร่วมมือสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขตในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลในเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น ภาพยนตร์ ซีรี่ย์และแอนิเมชัน อาหาร ท่องเที่ยว ศิลปะและศิลปะการแสดง เฟสติวัลระดับโลกและเทศกาลประเพณี เพื่อสนับสนุน Thailand Creative Content Agency (THACCA) และ 1 ครอบครัว 1 Soft Power (One Family One Soft Power (OFOS)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นโยบาย THACCA และ OFOS เป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีความเป็นอัตลักษณ์ของไทยมาพัฒนาต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อสร้างงานสร้างรายได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จะเปิดลงทะเบียนผู้ที่มีทักษะฝีมืออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในสาขาต่างๆ ผ่าน แอพพลิเคชันของกองทุนหมู่บ้านเข้ามาอบรมเพื่อพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้น ซึ่งหน่วยงานของวธ.ที่จะเป็นศูนย์ฝึกอบรม เช่น สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ สำนักช่างสิบหมู่ หลังจากนั้น THACCA จะส่งเสริมให้สร้างสรรค์ผลงานหรือสร้างผลิตภัณฑ์จำหน่ายและมีกองทุนให้กู้ยืมด้วย เพื่อให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งจะแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อน Soft Power ให้มากที่สุด โดยภาครัฐคอยสนับสนุนและลดขั้นตอนการอนุญาตในเรื่องต่างๆ ซึ่ง THACCA จะขับเคลื่อน Soft Power เบ็ดเสร็จในองค์กรเดียว
นายเสริมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ขอให้สภาวัฒนธรรมในกรุงเทพฯทั้ง 50 เขตร่วมกันส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในกรุงเทพฯและจังหวัดต่างๆโดยเฉพาะแหล่งมรดกโลก เช่น อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นต้น และจังหวัดที่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศให้เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ เช่น จังหวัดเชียงรายด้านออกแบบ จังหวัดเพชรบุรีด้านอาหาร รวมทั้งกิจกรรมภายใต้งาน Thailand Winter Festivals ของรัฐบาล เช่น การติดตามประกาศผลการเสนอ“ประเพณีสงกรานต์” ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อยูเนสโก วันที่ 7 ธันวาคม 2566 และงานเฉลิมฉลองวันที่ 8 – 9 ธันวาคม 2566 ณ ลานคนเมือง กรุงเทพฯ การท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน (Night Heritage) ที่วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย และโบราณสถานเวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมถึง 31 ธันวาคม 2566 กิจกรรม“อารามอร่าม 10 วัดและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ”ในกรุงเทพฯ วันที่ 24 ธันวาคม 2566 – 2 มกราคม 2567 งานสวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคล ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วัดทั่วประเทศและวัดไทยในต่างประเทศทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2566 – 1 มกราคม 2567 งานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ จังหวัดเชียงราย (Thailand Biennale, Chiang Rai 2023) วันที่ 9 ธันวาคม 2566 – 30 เมษายน 2567 ณ จังหวัดเชียงราย
“สภาวัฒนธรรมเขตทั้ง 50 เขตในกรุงเทพฯ เป็นหน่วยงานระดับพื้นที่ ถือเป็นพลังความสำคัญช่วยส่งเสริม เผยแพร่และประชาสัมพันธ์นโยบายรัฐบาลในเรื่อง THACCA และ OFOS รวมทั้งสนับสนุน Soft Power ด้านการท่องเที่ยวและเฟสติวัลทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพราะเข้าถึงชาวบ้านและนักท่องเที่ยวในแต่ละชุมชน จะช่วยให้คนที่อยู่ในกรุงเทพฯมีโอกาสพัฒนาทักษะฝีมืออุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเชิญชวนให้คนไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม งานเทศกาลประเพณีต่างๆในประเทศไทย ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น สร้างงานสร้างรายได้ ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว