ยผ.ขานรับนโยบาย มท.1 ฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยว

ยผ.ขานรับนโยบาย มท.1 ฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยว เร่งประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้กฎหมายเปิดกว้างให้อาคารที่จะประกอบธุรกิจโรงแรมที่มีความหลากหลายประเภทมากยิ่งขึ้น เช่น แพ เต็นท์ ซากยานพาหนะ ตู้คอนเทนเนอร์ และบ้านต้นไม้ ส่วนอาคารเก่าที่ประกอบกิจการมาก่อน ปี 2559 ก็สามารถยื่นขออนุญาตได้

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า เพื่อขับเคลื่อนการฟื้นฟูและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้มีการประชาสัมพันธ์ เสริมสร้างการรับรู้ความเข้าใจกฎกระทรวงกำหนดลักษณะและระบบความปลอดภัยของอาคารที่ใช้ประกอบธุรกิจเป็นโรงแรม พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2566 เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมได้รับรู้และเข้าใจถึงกฎหมายใหม่ที่เปิดกว้างรองรับอาคารในรูปแบบต่างๆ ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมนำอาคารรูปแบบต่างๆ มาใช้ประกอบธุรกิจโรงแรมแทนการประกอบธุรกิจโรงแรมในรูปแบบเดิม

นายพงศ์รัตน์ฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมากฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารยังไม่ครอบคลุมประเภทของอาคารที่จะนำมาประกอบธุรกิจโรงแรม ทำให้อาคารดังกล่าวไม่สามารถขอรับใบอนุญาตดัดแปลงหรือเปลี่ยนการใช้อาคารเป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารได้จึงทำให้มีการปรับปรุงกฎหมาย เพื่อให้อาคารที่จะประกอบธุรกิจโรงแรมทุกขนาดรวมทั้งโรงแรมลักษณะพิเศษ เช่น ที่พักแบบรวม (hostel) โฮมสเตย์ เต็นท์ แพ บังกะโล บ้านต้นไม้ ที่พักแบบเป่าลม (bubble) ซากยานพาหนะ และที่พักแบบแคปซูล สามารถยื่นขอก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและสามารถไปขอรับใบประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมต่อได้

นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจเป็นโรงแรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2566 เพื่อให้อาคารเก่าที่ประกอบกิจการมาก่อนปี 2559 ก็สามารถยื่นขอเปลี่ยนการใช้มาเป็นโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารได้ โดยต้องมีวิศวกรตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและปรับปรุงระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเพิ่มเติม และยังได้รับยกเว้นเกี่ยวกับข้อกำหนดบางประการเช่น ที่ว่างภายนอกอาคาร หรือระหว่างอาคารกับถนนตรอก ซอย ทางเท้า หรือทางสาธารณะ บันได และที่จอดรถยนต์

ปัจจุบัน กรมได้มีการหารือกับผู้ประกอบการด้านแพลตฟอร์มที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว หรือนักเดินทางที่จะสามารถค้นหาและจองห้องพักระยะสั้นได้จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว และสามารถยื่นขออนุญาตได้อย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ การประกาศใช้กฎกระทรวงดังกล่าวแล้ว จะสามารถส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ประกอบการในการสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระดับชุมชน และระดับประเทศ เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป