วันนี้พี่หนุ่ม-สุทน พาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นโปรแกรมเดินทางเป็นวงรอบ เริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตามเส้นทางสายบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ให้มองป้ายเส้นทางไปวัดไผ่โรงวัว แล้วตรงไปข้ามสะพานแม่น้ำท่าจีน มองทางด้านซ้ายเห็นวัดท่าเจดีย์แวะได้นะ พี่หนุ่ม-สุทน เรียกวัดสามวัยคือวัยรุ่น วัยทำงานและวัยสูงอายุ เสร็จแล้วเดินทางตรงไปจนถึง วัดอัมพวัน ติดถนนใหญ่เห็นชัดเจน แวะก่อนนะจ๊ะขอเล่าเรื่องให้ฟังนิดหนึ่ง
วัดอัมพวัน สร้างขึ้นมาในปี 2457แต่เดิมเรียกวัดคลองมะดัน เพราะริมคลองสมัยนั้นมากด้วยต้นมะดันและทุ่งนาติดกับวัดอัมพวัน และต่อมาเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดอัมพวัน โดยมีหลวงพ่อแสงเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก แต่ญาติโยมใน อ.สองพี่น้อง จะรู้จักมากที่สุดคือหลวงพ่อโหน่ง ท่านเป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 2 ของวัดอัมพวันและหลวงพ่อโหน่งท่านเป็นพระปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัดในพระวินัยสงฆ์จริง ๆ และท่านจะสวดมนต์นั่งสมาธิกรรมฐานทุกค่ำคืน และพอรุ่งอรุณท่านจะสวดมนต์ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์ทุกครั้ง แล้วออกบิณฑบาตเป็นประจำเพื่อโปรดสัตว์ตามกิจวัตรของภิกษุ และหลวงพ่อโหน่งไม่ฉันเนื้อสัตย์และไม่สระสมทรัพย์สินใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อถึงยามค่ำคืนท่านจะนั่งสมาธิกรรมฐานในป่าช้าทุกค่ำคืน จนสำเร็จมีญาณพิเศษเมื่อญาติโยมทั้งหลายมาถามเรื่องราวต่าง ๆ ท่านจะหลับตาและท่านสามารถจะบอกได้ทุกเรื่อง และหลวงพ่อโหน่งท่านละสังขารด้วยท่านอนแบบพระไสยาสน์ในปี 2477 เป็นการละสังขารอย่างสงบนิ่ง และทุกวันที่วัดอัมพวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมานมัสการขอพรรูปหล่อหลวงพ่อโหน่งแบบท่าพระไสยาสน์กันมากโดยเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์
เสร็จแล้วเดินทางต่อ เข้าตลาดเก่าบางลี่ อ.สองพี่น้อง หน้าตลาดมีวงเวียนหอนาฬิกา ส่วนด้านหน้าที่จอดรถเมล์ประจำทางบางลี่-กรุงเทพฯ ใครสนใจจะนั่งรถเมล์กลับกรุงเทพฯ ก็ได้นะ นั่งเพลิน ๆ ทำตัวให้สนุกสนานกับเดินทางท่องเที่ยว สำหรับด้านหลังมีพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชประดิษฐานอยู่ แต่ชาวบ้านเรียกศาลสมเด็จพระนเรศวรสั้น ๆ บริเวณนี้มากด้วยตุ๊กตาไก่ และถือว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวสองพี่สองนะครับ และพอเดินสุดทางคือคลองสองพี่น้อง ยังมีบ้านเรือนเก่า ๆ ริมคลองแบบโบราณ ให้เห็นภาพบรรยากาศแบบดั้งเดิม ส่วนวิถีชีวิตยังคงปลูกผักบุ้งและผักกระเฉดชูยอดอ่อน ๆ ให้เห็นริมคลองหน้าบ้าน เห็นแล้วน่าซื้อมาผัดน้ำมันหอย จิ้มน้ำพริกกะปิว้าวน่าจะอร่อยดี แต่มีขายในตลาดบางลี่จ้า ยอดอ่อน ๆ สดจริง ๆ เสร็จแล้วเดินทางต่อเป็นวงรอบเลี้ยวขวา
ก่อนจะขึ้นสะพานข้ามคลองสองพี่สอง ทางขวามือเส้นทางเลียบคลองไปประมาณ 1 ก.ม. มองด้านซ้ายเห็นป้ายเล็ก ๆ ชื่อขจีคาเฟ่ บริเวณนี้คล้ายหมู่บ้าน แต่น่าทึ่งและน่าสนใจมาก ๆ ขอบอก เพราะว่าพี่หนุ่ม-สุทน เห็นเค้าจัดเป็นตลาดทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ทุกสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เฉพาะทุกวันเสาร์อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนนะจ๊ะ มีตลาดเล็ก ๆ แต่มากด้วยศิลปะโดยเฉพาะเสื้อผ้าแฟชั่นของสุภาพสตรี ปักดอกไม้บานดูเก๋ไก๋ ชวนให้น่าซื้อจัง เสื้อผ้าสไตล์การปักด้วยมือของทั้งสาวน้อยและสาวใหญ่ นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟสดสไตล์แบบกันเองในบรรยากาศริมคลองสองพี่น้อง ได้นั่งดื่มกาแฟสดใต้ต้นไม้ มองวิวทิวทัศน์ เรียกว่านั่งกินลมชมวิวและมีลมพัดผ่านเย็นสบาย ๆ มองซ้ายแลขวาเขียวขจีด้วยแปลงผักบุ้งและผักกระเฉด ตามคุ้งน้ำในคลองสองพี่น้อง แหล่งโอโซนอากาศบริสุทธิ์ ขอบอกต้องไปเที่ยวให้ได้ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยเฉพาะตลาดศิลปะเล็ก ๆ แต่น่าชม และช้อปมาก ๆ ส่วนชื่อขจีหมายถึงงามสดใสหรืออยู่กับต้นข้าวเขียวขจีเต็มทุ่งนา สำหรับขจีค่าเฟ่ร้านกาแฟสด แต่เดิมเป็นบ้านพักส่วนตัวและต่อมามีการชักชวนกันมาเปิดร้านอาหารเนื่องจากอากาศดี และต่อมาน้อง ๆ คนรุ่นใหม่เห็นว่ามีร้านอาหารแล้ว น่าจะมีร้านกาแฟสดด้วยในบรรยากาศริมคลองและมีแปลงผักสวนครัวทุ่งนาเขียวขจี ดังนี่แหละ จึงเป็นที่มาของคำว่าขจีคาเฟ่ และปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนแบบโฮมสเตย์ได้ด้วยครับ ดีจุงเบย สำหรับนักท่องเที่ยวที่โหยหาแหล่งโอโซนเหมาะมากค่ะ พักโฮมสเตย์ขจีแห่งนี้มีทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟสดรวมถึงอากาศสดชื่น สดใสแหล่งโอโซนของ อ.สองพี่น้อง ส่วนเส้นทางกลับก็มาตามเส้นทาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐมและ อ.บางเลนเข้าเส้นทาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ถึงกรุงเทพฯ ตามที่พี่หนุ่ม-สุทนเล่าเรื่องให้ฟังนะจ๊ะ
สำหรับนักท่องเที่ยวสนใจจะเดินทางไปเที่ยวอ.สองพี่น้องจ.สุพรรณบุรี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 035-525 863-4 ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
#เก็บเรื่องมาเลาโดยหนุ่มสุทน
#รักษ์เที่ยว #รักษ์ทะเลไทย
#รักษ์สุมทรสงคราม #รักษ์ตัวเองนะ
#คนรักษ์กาแฟ #bigmaptravel
#เที่ยวเพลิน #tourismlocallife
#STNewsThailand