วันที่ 31 ตุลาคม 2566 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 3/2566 โดยมี ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ทำหน้าที่เป็นกรรมการและเลขานุการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สคทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ณ ตึกบัญชา 1 ทำเนียบรัฐบาล
นายภูมิธรรม เวชยชัย ประธานการประชุมฯ ได้มอบนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานราชการ การมีส่วนร่วมของประชาชน และให้การบริหารจัดการที่ดินเกิดประโยชน์สูงสุด โดยยึดหลัก “ประชาชนต้องมีที่ดินและที่ทำกินอย่างพอเพียง” จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและความเหลื่อมล้ำในเรื่องที่ดินทำกินของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม และเป็นไปตามนโยบายตามคำแถลงของนายกรัฐมนตรีที่ได้กล่าวต่อรัฐสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2566 ในการสร้างและขยายโอกาสให้กับประชาชน เป็นนโยบายการให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เพื่อสร้างโอกาสในการมีอาชีพ รายได้และความมั่นคงในชีวิต โดยจะเร่งดำเนินการให้ประชาชนมีสิทธิทำกินในที่ดินเขต ส.ป.ก. หรือพื้นที่ป่าไม้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มากกว่า 50 ล้านไร่ และกำหนดนโยบายการใช้ประโยชน์ของเอกสารหลักฐานหรือหนังสืออนุญาตที่รัฐออกให้ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปต่อยอดให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ ควบคู่กับสร้างพื้นที่สีเขียวเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน รวมทั้งการให้ความสำคัญกับการนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม “THEOS – 2” มาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการบริหารจัดการพื้นที่และยกระดับการทำงานในพื้นที่เป้าหมาย คทช. เพื่อใช้ในการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการที่ดินอย่างเหมาะสมตามศักยภาพ และติดตามการใช้ประโยชน์ในพื้นที่และป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐ เมื่อการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ One Map ดำเนินการแล้วเสร็จ ทั้งนี้ ผลการประชุมสรุปดังนี้
1. รับทราบผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ประกอบด้วย
1.1 กำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว 1,582 พื้นที่ 71 จังหวัด เนื้อที่ 5,888,729 – 3 – 16.41 ไร่
1.2 ออกหนังสืออนุญาตแล้ว 523 พื้นที่ เนื้อที่ 2,496,855 – 2 – 72.53 ไร่
1.3 จัดคนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว 85,403 ราย ใน 378 พื้นที่
1.4 ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้วใน 312 พื้นที่
2. รับทราบมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 เรื่อง การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ
แบบบูรณาการ มาตราส่วน 1:4000 (One Map) ที่มอบหมายให้ สคทช. ร่วมกับ ทส. กษ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งการปรับปรุง One Map ในพื้นที่กลุ่มอื่นๆ ที่เหลือให้แล้วเสร็จและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วต่อไป
3. เห็นชอบการมอบหมายประธานอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ จำนวน 3 ชุด ได้แก่ 1) คณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน และ 2) คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม และประเมินผล มอบหมาย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด) เป็นประธาน และ เห็นชอบกับการปรับปรุงหน้าที่และอำนาจของคณะอนุกรรมการสารสนเทศที่ดินและทรัพยากรดิน เพื่อหน้าที่และอำนาจครอบคลุมในเรื่องที่เกี่ยวกับการพิจารณาให้ความเห็นชอบธรรมาภิบาลข้อมูลด้านที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ
4. เห็นชอบการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐของพื้นที่กลุ่มที่ 4 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ มุกดาหาร หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ (ยกเว้น วนอุทยานฯ ภูสิงห์-ภูผาผึ้ง) สกลนคร ยโสธร บึงกาฬ หนองคาย ขอนแก่น อุดรธานี (ยกเว้นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว) และนครพนม และนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป และ เห็นชอบแนวทางลดขั้นตอนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เพื่อลดระยะเวลาการดำเนินงานในภาพรวม และสามารถปรับปรุงแผนที่แนวเขตฯ ได้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด โดย 1) เห็นชอบในหลักการให้ สคทช. กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1:4000 (One Map) และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรองความถูกต้องของข้อมูล และเมื่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบผลการดำเนินงานดังกล่าวแล้ว ให้นำไปจัดทำแผนที่แนบท้ายกฎหมาย โดยไม่ต้องแจ้งเวียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 เพื่อเป็นการลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและให้ สคทช. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป 2) เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำแผนที่แนบท้ายกฎหมาย เห็นชอบให้ สคทช. ร่วมกับกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) พิจารณาแนวทางการนำแผนที่ดิจิทัล และเทคโนโลยีดาวเทียมมาใช้ในการปรับปรุง
แผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัลตลอดไป 3) เห็นชอบการขยายเวลาเพิ่มเติม กรณีการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) กลุ่มจังหวัดที่ 1 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี กรุงเทพมหานคร นครปฐม อ่างทอง สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี อีก 180 วัน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 9 หน่วยงาน รายงานผลการดำเนินงานให้ สคทช. ทราบทุกเดือน และให้ สคทช. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ ทุกไตรมาส
5. เห็นชอบในหลักการต่อ (ร่าง) แผนงานงบประมาณรายจ่ายบูรณาการด้านที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ (พ.ศ 2568 – 2571) เพื่อขับเคลื่อนภารกิจเร่งด่วนในเรื่องการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และการจัดที่ดินทำกินในลักษณะแปลงรวมโดยไม่ให้กรรมสิทธิ์ และมอบหมายให้ สคทช. ดำเนินการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และเสนอต่อสำนักงบประมาณพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป