นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมจัดทำแผนรองรับสถานการณ์ และส่งเสริมกิจกรรมทดแทนในพื้นที่ที่ไม่สามารถเพาะปลูกข้าวได้ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยให้เตรียมสำรวจความเสียหายของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติ และจัดทำแผนการช่วยเหลือเพื่อชดเชยเกษตรกรผู้ประสบภัย รวมทั้งหากมีข้อติดขัดหรือข้อจำกัดในการดำเนินการตามกฎระเบียบเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแนวทางแก้ไขต่อไป
ปัจจุบันกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง โดยมีภารกิจหลักในการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่ปริมาณน้ำน้อยกว่า 30% (ข้อมูล ณ วันที่ 24 ก.ค. 62) มีการขึ้นบินของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 8 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกจำนวน 18 จังหวัด และพื้นที่ลุ่มรับน้ำต่าง ๆ ได้แก่ 1) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก มีฝนตกที่จังหวัดลำปาง พื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำแม่พริกผาวิ่งชู้ อ่างเก็บน้ำแม่อาบ 2) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก มีฝนตกที่จังหวัดเพชรบูรณ์ และอ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง 3) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี มีฝนตกที่จังหวัดนครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี สุพรรณบุรี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อ่างเก็บน้ำมวกเหล็ก อ่างเก็บน้ำซับห้วยใหญ่ และอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร 4) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี มีฝนตกที่จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และอ่างเก็บน้ำห้วยเทียน 5) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา มีฝนตกที่จังหวัดนครราช ชัยภูมิ 6) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุบลราชธานี มีฝนตกที่จังหวัดศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ 7) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์ มีฝนตกที่จังหวัดสุรินทร์ และ 8) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว มีฝนตกที่จังหวัดสระแก้ว