นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กฐินพระราชทาน เป็นกฐินที่พระมหากษัตริย์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้าพระกฐิน ให้แก่หน่วยงานราชการ องค์กร คณะบุคคล หรือบุคคลผู้ประสงค์ขอรับพระราชทานนำไปทอดถวาย ณ พระอารามหลวง ทั้งกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และในส่วนของ กฐินกาล มีกำหนดระยะเวลา 1 เดือน หลังออกพรรษา 1 วัน ระหว่างวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี พุทธศาสนิกชนจะร่วมทำบุญถวายผ้ากฐิน เพื่อเป็นการสืบทอดและทำนุบำรุงประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง
รมว.วธ. กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานผ้ากฐิน ให้กระทรวงวัฒนธรรมนำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษา ณ วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ในวันเสาร์ ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2566 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ผลานิสงส์แห่งการถวายผ้าพระกฐินครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นฉัตรแก้วปกเกศอาณาประชาราษฎรตลอดไป รวมทั้งบันดาลให้ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญกุศล มีจิตตั้งมั่นในความดีงาม ถึงพร้อมด้วยสรรพกำลังในอันที่จะบำเพ็ญ คุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
นายเสริมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสนี้ วธ. ได้จัดพิมพ์หนังสือ “ปกิณกวัฒนธรรม วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร และแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมบริเวณใกล้เคียง” เพื่อรวบรวมประวัติของวัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มายาวนาน งานศิลปกรรมที่สำคัญภายในวัด โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถที่งดงาม เลอค่า รวมถึงสถานที่สำคัญและน่าสนใจบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เพื่อเผยแพร่แก่ประชาชนและผู้มาร่วมบุญกุศลในครั้งนี้
ทั้งนี้ วัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยธนบุรีต่อเนื่องมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ และเป็นสถานที่ที่พระมหากษัตริย์มีพระราชศรัทธาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งวัดแห่งนี้ยังมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่โดดเด่นควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยจิตรกรเอกชั้นครู ได้แก่ หลวงวิจิตรเจษฎา (ครูทองอยู่) และ หลวงเสนีบริรักษ์ (ครูคงแป๊ะ) กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดแห่งนี้เป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492 ดังประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 66 ตอนที่ 64 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2492 ซึ่งวัดสุวรรณาราม ราชวรวิหาร ยังมีแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมบริเวณใกล้เคียง ได้แก่
คลองบางกอกน้อยและย่านบางขุนนนท์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน ศูนย์ศิลป์แสงเงา มัสยิดหลวงอันซอริซซุนนะห์ โรงรถจักรธนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งการจัดทำหนังสือเล่มนี้นอกจะให้ความรู้และเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจด้านศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังถือเป็นการสนับสนุนนโยบายขับเคลื่อน Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก โดยขับเคลื่อนผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเศรษฐกิจวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป