นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เน้นย้ำในเรื่องการพัฒนาทักษะฝีมือให้ได้มาตรฐาน สอดรับกับความต้องการของตลาด ซึ่งกพร.ได้ดำเนินการพัฒนาทักษะฝีมือให้กับกำลังแรงานของประเทศทุกกลุ่ม และทุกช่วงวัย ในสาขาอาชีพที่เหมาะสม เพื่อยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ (Super Worker) นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้การประกอบอาชีพในสาขาที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งส่วนบุคคลและสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2557 เพื่อเป็นการเน้นย้ำและให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยดังกล่าว จึงจัดอบรมให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในฐานะนายทะเบียน ที่ต้องทำหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแล เพื่อให้คำแนะนำแก่สถานประกอบกิจการและผู้ประกอบอาชีพ ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องพระราชบัญญัติฯดังกล่าว
สำหรับในปี 2562 ได้มอบหมายให้สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ จัดเจ้าหน้าที่ออกให้คำแนะนำสถานประกอบกิจการในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละจังหวัดแล้ว พร้อมนำปัญหาและอุปสรรครวมถึงข้อเสนอแนะจากสถานประกอบกิจการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อหาวิธีการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายสุรพล พลอยสุข รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า การจัดอบรมพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมฯ พ.ศ. 2545 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคม 2562 ประกอบด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานทั้งส่วนกลางและภูมิภาคจำนวน 100 คน เพื่อให้มีความรู้ เกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการตรวจเยี่ยมสถานประกอบกิจการ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งเป็นซักซ้อมความเข้าใจให้ถูกต้องตรงกัน โดยเฉพาะการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรับรองความรู้ ความสามารถ สาขาอาชีพที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันประกาศให้สาขาอาชีพ ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร เป็นสาขาแรกที่ต้องปฏิบัติงานโดยผู้ที่มีหนังสือรับรองความรู้ ความสามารถ(License) เท่านั้น ซึ่งหากฝ่าฝืนจะมีการกำหนดโทษ โดยนายทะเบียนเป็นผู้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ
“สถานประกอบกิจการหรือผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสาขาอาชีพช่างไฟฟ้า สามารถจัดส่งพนักงานหรือขอรับการประเมินได้ที่หน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานทั้ง 77 แห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองความรู้ความสามารถ 0 2245 1703 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4” อธิบดีกพร. กล่าว