กรมการค้าต่างประเทศร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้า ANUGA 2023 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ดีของข้าวไทยในด้านรสชาติ คุณภาพมาตรฐาน และความหลากหลายให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมย้ำจุดยืนไทยหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวคุณภาพดีของโลก
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 – 11 ตุลาคม 2566 กรมฯ ได้ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทย รวมถึงเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทยในงานแสดงสินค้า ANUGA 2023 ณ เมืองโคโลญจน์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีกำหนดจัดงานทุกๆ 2 ปี โดยในปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า 7,900 ราย จาก 118 ประเทศ และมีผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมงานราว 140,000 ราย จาก 200 ประเทศทั่วโลก
สำหรับการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ กรมฯ ได้ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างเสริมการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับข้าวหอมมะลิไทย คุณภาพมาตรฐาน และความหลากหลายของข้าวไทย ภายใต้แนวคิด “Think Rice Think Thailand. We serve the best quality rice to the world.” รวมทั้งมีการจัดแสดงตัวอย่างข้าวไทยชนิดต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมไทย ข้าวขาว ข้าวนึ่ง ข้าวเหนียว ข้าวกล้อง ตลอดจนได้มีการนำเสนอข้าวคุณลักษณะพิเศษชนิดต่างๆ ของไทย อาทิ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสังข์หยด ข้าวหอมนิล ข้าวกล้องหอมมะลิแดง และข้าว กข.43 ซึ่งเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และคำนึงถึงสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการจัดให้ชิมข้าวไทยชนิดต่างๆ ร่วมกับอาหารไทย เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสรสชาติของข้าวไทยที่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ซึ่งคูหาของกรมฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้นำเข้า ผู้ประกอบการร้านอาหาร และผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมคูหาทั่วไปจากหลากหลายประเทศ เช่น เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ จอร์เจีย ยูเครน แคนาดา เปรู สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน และญี่ปุ่น โดยต่างชื่นชอบในรสชาติและคุณภาพของข้าวไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้ให้ความสนใจในข้าวสีของไทย โดยเฉพาะข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีสีเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ และรสชาติดี และได้มีการสอบถามรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับคุณลักษณะ มาตรฐานของข้าวไทย รวมถึงเครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย และราคาข้าว กว่า 1,500 ราย ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการบริโภคและการนำเข้าข้าวคุณภาพดีและข้าวสีของไทยเพิ่มขึ้น
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เยอรมนีเป็นอีกหนึ่งตลาดข้าวคุณภาพดีที่น่าสนใจและมีศักยภาพ อีกทั้งยังเป็นประตูสู่ยุโรป ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ประชากรมีกำลังซื้อสูง ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกข้าว ทำให้ต้องนำเข้าข้าวจากต่างประเทศ โดยในแต่ละปีเยอรมนีนำเข้าข้าวประมาณ 4 แสนตัน เพื่อใช้สำหรับบริโภคในประเทศและส่งออกต่อไปยังประเทศใกล้เคียง ในขณะที่ภูมิภาคยุโรปมีการนำเข้าข้าวประมาณ 3 ล้านตัน รวมทั้งปัจจุบันผู้บริโภคในเยอรมนีและประเทศในภูมิภาคยุโรปอื่นๆ ได้หันมาใส่ใจในสุขภาพและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ตลอดจนสนับสนุนสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงเป็นโอกาสดีในการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ข้าวคุณภาพดี ข้าวสี และข้าวอินทรีย์ชนิดต่างๆ ของไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความนิยมและส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดเยอรมนีและภูมิภาคยุโรปต่อไป
นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้านานาชาติอย่างต่อเนื่อง เช่น งาน China International Import Expo 2023 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน งาน Gulfood 2024 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และงาน BIOFACH 2024 ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นต้น