ภัยแล้งจ.กาฬสินธุ์ เริ่มดีขึ้นหลังจากมีฝนตกในพื้นที่ แม้น้ำเขื่อนลำปาวจะอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แต่ยังคงปล่อยน้ำช่วยการเกษตรได้ตามแผน

“ภัยแล้งจ.กาฬสินธุ์ เริ่มดีขึ้นหลังจากมีฝนตกในพื้นที่ แม้น้ำเขื่อนลำปาวจะอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย แต่ยังคงปล่อยน้ำช่วยการเกษตรได้ตามแผน กลางเดือนหน้าหากไม่มีน้ำไหลเข้า อาจต้องพิจารณาปรับแผนการส่งน้ำ เน้นสำรองไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก”

นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยหลังจากการลงพื้นที่เขื่อนลำปาวว่า วันนี้ได้มีประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.กาฬสินธ์ุ และจ.ร้อยเอ็ด พบว่าปริมาณน้ำเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธ์ุ มีปริมาณ 482.15 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำใช้การได้ 382.15 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19.30 ของความจุอ่างฯ ปัจจุบันระบายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและการกษตรวันละ 4.55 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. 62 มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 84% ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ เพียง 89.51 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยถึง 53 % หากยังไม่มีฝนตกลงมาเติมน้ำในอ่างฯ อาจทำให้ปริมาณน้ำในอ่างฯอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง จึงต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงนี้ให้ดำเนินการตามแผนการส่งน้ำที่วางไว้ไปก่อน จนกว่าอ่างฯ จะเหลือน้ำใช้การได้ 350 ล้านลูกบาศก์เมตร อาจจะต้องพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำ โดยให้โครงการฯ ลำปาวติดตามสถานการณ์น้ำและปริมาณฝนอย่างใกล้ชิด ไปจนถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม 62 หากการคาดการณ์ปริมาณฝนไม่เป็นไปตามคาดการณ์ จะมีการพิจารณาปรับแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามจากการคาดหมายลักษณะอากาศโดยสถานีอุตุนิยมวิทยากาฬสินธุ์ พบว่า ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม ระหว่างวันที่ 1-3 สิงหาคม 2562 จะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่าจะบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ ทั้งนี้แผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนลำปาว จะแบ่งเป็นการใช้ประโยชน์ 3 ส่วน โดยอันดับแรกต้องส่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคของประชาชนเป็นหลักก่อน รองลงมาคือเพื่อการเกษตร และการอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังระบายน้ำลงลำน้ำเดิมเพื่อช่วยเหลือแม่น้ำชีตอนล่าง จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันประหยัดน้ำและแบ่งปัน ให้ทุกฝ่ายได้ใช้น้ำอย่างเพียงพอ ทั่วถึงและเป็นธรรม