วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.00 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ นางสุพร ตรีนรินทร์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะอนุกรรมการฯ
โดยมีนายวัชระ เสือดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) นายเสริมชัย เชียวศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 10 นายเศกสิทธิ์ โพธิ์ชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมชลประทาน(ด้านพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง) นายสัณฐิต พีรานนท์ ผู้อำนวยการกองประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นายเจษฎา โทศิริกุล ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 10 นายสุชาติ กาญจนวิลัย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบูรณ์ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมติดตามและขับเคลื่อนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ณ ห้องประชุมเมืองราด ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์
ในการนี้ ผู้แทนกรมชลประทานได้บรรยายผลการดำเนินงาน และความก้าวหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสัก โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 และเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2548 สรุปความว่า “…ควรพิจารณาวางโครงการเก็บกักน้ำตอนบนของลำน้ำสาขาแม่น้ำป่าสักไว้ให้มาก เพื่อใช้ด้านการเกษตรและป้องกันอุทกภัย เนื่องจากน้ำเหนือเขื่อนป่าสักมีมาก ให้พิจารณาจัดเก็บให้เหมาะสม…” ซึ่งกรมชลประทานได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำป่าสัก เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 7 โครงการ โดยอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 6 โครงการ ได้แก่
อ่างเก็บน้ำห้วยป่าเลาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำก้ออันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำคลองลำกงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอ่างเก็บน้ำห้วยเล็งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดลพบุรี จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยหินอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แต่ยังไม่ครอบคลุมทั้งพื้นที่ลุ่มน้ำ และทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้เต็มศักยภาพ เนื่องจากกรมชลประทานอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษา สำรวจ และออกแบบ อีกจำนวน 9 โครงการ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 8 โครงการ และจังหวัดลพบุรี จำนวน 1 โครงการ
ต่อมาช่วงบ่าย คณะได้เดินทางไปยังโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเล็งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำดังกล่าว เป็น 1 ใน 7 โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2558 ปริมาณการเก็บกักน้ำ 17.20 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถช่วยเหลือพื้นที่ชลประทานของอ่างเก็บน้ำห้วยเล็งฯ ในฤดูฝน จำนวน 10,000 ไร่ และในฤดูแล้ง จำนวน 3,400 ไร่ และยังได้จัดตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำ “กลุ่มพัฒนาห้วยเล็งเพื่อการเกษตร (อันเนื่องมาจากพระราชดำริ)” และกลุ่มพื้นฐาน จำนวน 4 กลุ่ม มีสมาชิก 194 ราย สำหรับแผนการดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่
1) ขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยเล็ง
2) แก้มลิงบ่อยืมดินห้วยเล็ง
3) โครงการปรับปรุงระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยเล็ง
เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะสามารถช่วยเหลือน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค และการเกษตรได้เพียงพอตลอดทั้งปี
