กรมส่งเสริมการเกษตร เร่งสำรวจความต้องการใช้ปุ๋ย พร้อมจับมือพาณิชย์ เชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกจากผู้ผลิต ผู้นำเข้า ขายตรงเกษตรกร เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต

นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้หารือแนวทางการดำเนินโครงการเชื่อมโยงปุ๋ยเคมีราคาถูกให้แก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร ร่วมกับกรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมสหกรณ์ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย เพื่อให้เกษตรกรสามารถซื้อแม่ปุ๋ยได้ในราคาถูกและช่วยลดต้นทุนในการผลิตลงได้ ด้วยการเชื่อมโยงปุ๋ยจากโรงงานผู้ผลิต ผู้นำเข้า 26 ราย ผ่านความร่วมมือจากสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย และสมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย มาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร โดยให้ส่วนลดกระสอบละ 10-50 บาท และลดราคาปุ๋ยทั้งหมด 64 สูตร จำนวน 144 รายการ รวมปริมาณ 3.04 ล้านกระสอบ

ซึ่งในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรนั้นได้สั่งการไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัดและสำนักงานเกษตรอำเภอให้รวบรวมความต้องการใช้ปุ๋ยของสถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของกรมส่งเสริมการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นชนิดปุ๋ย สูตรปุ๋ย ปริมาณปุ๋ย ยี่ห้อปุ๋ย รวมถึงรายชื่อผู้ผลิต เพื่อแจ้งข้อมูลกลับมายังกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อที่จะส่งข้อมูลต่อไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ประสานสมาคมการค้าปุ๋ยแจ้งไปยังสมาชิกผู้ผลิต ผู้นำเข้าปุ๋ย พิจารณาจัดสรรความต้องการต่อไป

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า ในส่วนของแนวทางในการดำเนินการจำหน่ายปุ๋ยนั้น จะมีการสนับสนุนให้เกษตรกรซื้อปุ๋ยจากสถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรที่ร่วมโครงการฯ ตามราคาหน้าโรงงานที่ได้ส่วนลดจากโครงการฯ และกรมการค้าภายในจะจัดหางบประมาณเพื่ออุดหนุนค่าขนส่งบางส่วนให้กับสถาบันเกษตรกร โดยกรมการค้าภายในขอให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ มีการกำหนดราคาอัตราค่าขนส่งปุ๋ยตามระยะทางพร้อมระบุไว้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าราคาปุ๋ยเคมีหน้าโรงงานราคา 800 บาท ได้รับส่วนลดจากโครงการฯ กระสอบละ 20 บาท ราคาซื้อปุ๋ยหน้าโรงงานที่ร่วมโครงการคือ 780 บาท รวมอัตราค่าขนส่งกระสอบละ 40 บาท

ดังนั้น เกษตรกรซื้อปุ๋ยในราคากระสอบละ 820 บาท หากกรมการค้าภายในช่วยค่าขนส่งปุ๋ยกระสอบละ 15 บาท เกษตรกรจะสามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคากระสอบละ 805 บาท ซึ่งกรมการค้าภายในจะสนับสนุนค่าบริหารจัดการให้กับสถาบันเกษตรกร แต่ต้องนำใบเสร็จการซื้อปุ๋ยจากโครงการฯ และสำเนาใบเสร็จที่เกษตรกรมาซื้อปุ๋ยกับตนเองส่งเป็นหลักฐานเพื่อรับเงินอุดหนุนจากกรมการค้าภายในตามอัตราที่กำหนด ทั้งนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาอนุมัติการเบิกค่าใช้จ่ายให้กับสถาบันเกษตรกรสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

สำหรับการรับสมัครและการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ของสถาบันเกษตรกร กรมการค้าภายในรับไปดำเนินการผ่าน Application ซึ่งสถาบันเกษตรกรสามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาที่ดำเนินโครงการ แต่สถาบันเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องมีใบอนุญาตขายปุ๋ยและต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานต้นสังกัด เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอ สหกรณ์อำเภอ เป็นต้น และมีเงื่อนไขการซื้อขายคือซื้อเงินสดและไม่จำกัดจำนวนในการซื้อ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรเชื่อมั่นว่าการดำเนินโครงการเชื่อมโยงปุ๋ยเคมีราคาถูกให้แก่เกษตรกร เกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการฯ อย่างแท้จริง นั่นคือสามารถเข้าถึงและซื้อปุ๋ยได้ในราคาถูก