การเคหะแห่งชาติชี้แจงบ่อนพนันย่านดินแดงอยู่ในพื้นที่เช่าที่ถูกระงับการต่อสัญญา และอยู่ระหว่างดำเนินคดีซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อการเคหะแห่งชาติ

การเคหะแห่งชาติชี้แจงกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน บุกทลายบ่อนการพนันย่านดินแดง ซึ่งเป็นพื้นที่จัดประโยชน์ของการเคหะแห่งชาติ ปัจจุบันถูกระงับการต่อสัญญาและอยู่ระหว่างดำเนินคดี เนื่องจากผู้เช่านำพื้นที่ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ เรืออากาศโท ชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายสมเจต ประพันธ์บัณฑิต รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ และ นายเทพฤทธิ์ ฤทธิณรงค์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ พร้อมผู้บริหารฝ่ายฟื้นฟูและพัฒนาเมือง รวมทั้งฝ่ายกฎหมายเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย นำกำลังเข้าจับกุมบ่อนการพนันใจกลางชุมชนตลาดดินแดง ถ.ประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ พบว่า บ่อนการพนันดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณด้านหลังอาคารแฟลต พ.8 ซอยประชาสงเคราะห์ 8 (ตลาดกรุณาเดิม) เขตดินแดง ซึ่งเป็นพื้นที่จัดประโยชน์และอยู่ในความรับผิดชอบของการเคหะแห่งชาติ ทั้งนี้ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่กับการเคหะแห่งชาติเป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2562 ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2565 หลังจากนั้นบริษัทเอกชนดังกล่าวได้ยื่นคำร้องขอต่อสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน 2565 ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2568 ต่อมาสำนักงานเคหะนครหลวง สาขาดินแดง 2 รับทราบว่า บริษัทเอกชนดังกล่าวนำพื้นที่ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จึงออกหนังสือแจ้งไม่ต่อสัญญาและขอให้ส่งมอบพื้นที่คืนให้การเคหะแห่งชาติ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 พร้อมทั้งนำเรื่องส่งให้ฝ่ายกฎหมายของการเคหะแห่งชาติดำเนินคดี ต่อมาฝ่ายกฎหมายได้ยื่นฟ้องดำเนินคดี ซึ่งศาลนัดในวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ใกล้จะถึงนี้

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยในชุมชน เนื่องจากทำให้สมาชิกในครอบครัวติดการพนัน เป็นหนี้เป็นสิน อีกทั้งอาจจะเป็นแหล่งมั่วสุมที่ก่อให้เกิดอาชญากรรมได้ง่าย ภายหลังจากทีมผู้บริหารการเคหะแห่งชาติได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วก็ได้ประชุมหารือกับ พ.ต.อ.สมคิด สมบูรณ์ รักษาการผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลดินแดง และประธานคณะกรรมการเคหะชุมชนดินแดง 2 เพื่อขอความร่วมมือให้สถานีตำรวจนครบาลดินแดงลงพื้นที่ตรวจแหล่งมั่วสุมการพนันและยาเสพติดภายในชุมชนดินแดง รวมถึงติดตั้งตู้แดงเพื่อให้ตำรวจสายตรวจลาดตระเวนดูแลความเรียบร้อยในทุกวันเพื่อป้องปรามการเกิดเหตุอาชญากรรม และเป็นการบูรณาการความร่วมมือของการเคหะแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเครือข่ายภาคประชาชนในการแก้ไขปัญหาพื้นทึ่ ขณะเดียวกันยังได้กำชับให้สำนักงานเคหะนครหลวง สาขาดินแดง 2 และเสนอให้คณะกรรมการเคหะชุมชนดินแดง 2 ร่วมลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัยในการอยู่อาศัยของชาวชุมชน และช่วยกันสอดส่องดูแลบุคคลที่เข้าออกภายในชุมชน หากพบว่ามีคนแปลกหน้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบทันที นอกจากนี้การเคหะแห่งชาติจะติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในบริเวณพื้นที่ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งมั่วสุมการพนันและยาเสพติดอีกด้วย

“ชุมชนดินแดงมีอายุกว่า 50 ปี เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 36,000 ครอบครัว การเคหะแห่งชาติจึงได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูและพัฒนาเมืองชุมชนดินแดง ทั้งการพัฒนาตัวอาคารให้มีความแข็งแรง มั่นคง และทันสมัย รวมถึงการพัฒนาสภาพแวดล้อมชุมชนให้น่าอยู่อาศัยปราศจากแหล่งมั่วสุมการพนันและยาเสพติด ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รายงานให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม) รับทราบ และ รมว.พม. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเคหะนครหลวงและสำนักงานเคหะจังหวัดทั่วประเทศร่วมกับผู้อยู่อาศัยในชุมชนช่วยกันสอดส่องดูแลเรื่องที่ผิดกฎหมายและการใช้อิทธิพลในทางมิชอบ เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในชุมชนอีกต่อไป” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวทิ้งท้าย