รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่ตรวจราชการและมอบนโยบายในการบริหารจัดการเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

ผลจากการที่ เมืองโบราณศรีเทพ ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 19 กันยายน ด้วยคุณค่าที่โดดเด่นจากรูปแบบของผังเมือง สถาปัตยกรรม และรูปแบบศิลปกรรม เป็นตัวแทนของการผสมผสานระหว่างศาสนาพุทธแบบเถรวาท มหายาน และพราหมณ์ ฮินดู เมื่อประมาณ 1,000 – 1,600 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาอรุณรุ่งแห่งอารยธรรมสมัยประวัติศาสตร์ในประเทศไทย ทำให้นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเยี่ยมชมมากกว่าวันละ 5,000 คน ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดเป็นกระแสและข้อห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของโบราณสถานและการให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ตลอดจนความพร้อม ด้านต่าง ๆ เนื่องจากคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

วันที่ 29 กันยายน 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ลงพื้นที่ตรวจราชการและมอบนโยบายในการบริหารจัดการเมืองโบราณศรีเทพ โดยมีนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร นางสาวเพชรรัตน์ สายทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม คณะที่ปรึกษาและคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร นายอำเภอศรีเทพ วัฒนธรรมจังหวัด ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ เมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยได้สำรวจสถานที่สำคัญ ที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก ได้แก่ โบราณสถานภายในเมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานเขาคลังนอก หลังจากรับฟังบรรยายสรุป และเยี่ยมพื้นที่สำคัญดังกล่าวแล้ว รมว.วธ. ในฐานะผู้แทนของรัฐบาล ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีซึ่งติดภารกิจสำคัญไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองได้ โดย รมว.วธ. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยและให้ความสำคัญ ในเรื่องความปลอดภัยของโบราณสถาน สวัสดิภาพของนักท่องเที่ยวในการเข้าชม ตลอดจนความพร้อมของ สิ่งอำนวยความสะดวกในการรองรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งการบริหารจัดการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในทุกมิติเพื่อคงความโดดเด่น และคุณค่าในการเป็นมรดกโลกให้คงอยู่ตลอดไป พร้อมกับส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ รมว.วธ. กล่าวถึงแนวทางการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากในช่วงนี้ว่า ขอให้กรมศิลปากร ประสานกับจังหวัดเพชรบูรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อดำเนินการในสิ่งจำเป็นเร่งด่วน ได้แก่ การเพิ่มรถสุขาเคลื่อนที่ โดยขอความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดและเทศบาล พร้อมสั่งการให้กรมศิลปากร เพิ่มจำนวนรถรางเพื่อให้บริการนำชมกับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับโบราณสถานเขาคลังนอก ซึ่งเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ ที่อนุญาต ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมด้านบนได้นั้น ขอให้กรมศิลปากร จัดเจ้าหน้าที่เพื่ออธิบายข้อควรระมัดระวังในการเยี่ยมชม เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้ความรู้ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมศิลปากร สำรวจสภาพความเปลี่ยนแปลงของโบราณสถานอย่างละเอียด และรายงานให้ทราบเป็นระยะ เพื่อประกอบการพิจารณาว่าการรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากมีผลต่อโบราณสถานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โบราณสถานเขาคลังนอก ก่อสร้างด้วยศิลาแลงและอิฐ และผ่านการอนุรักษ์มาแล้ว จึงน่าจะไม่ได้รับผลกระทบ สำหรับโบราณสถานภายในเมืองโบราณศรีเทพ ทราบข้อมูลจากกรมศิลปากรว่า ได้มีการป้องกัน โดยเว้นระยะไม่ให้นักท่องเที่ยวสัมผัสส่วนลวดลายประดับ ที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้

การลงตรวจพื้นที่ในครั้งนี้ ได้มีการหารือและมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ห้องน้ำสาธารณะ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึก โดยคำนึงถึงการออกแบบที่รองรับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส เพื่อให้บริการกับนักท่องเที่ยวได้ครบทุกด้าน โดยการก่อสร้างทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความเหมาะสม ตามแผนแม่บทที่วางไว้ รวมถึงการสร้างศูนย์ข้อมูลเมืองโบราณศรีเทพ ที่จะได้นำโบราณวัตถุสำคัญซึ่งพบในเมืองโบราณศรีเทพมาจัดแสดงต่อไป โดยจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นอกจากนั้นยังขอให้มีการนำอัตลักษณ์ของศิลปกรรมอันโดดเด่นที่พบ ในเมืองโบราณศรีเทพ เช่น ลวดลายประดับรูปคนแคระ ซึ่งปัจจุบันถูกนำมาต่อยอดเป็นลวดลายบนไอศกรีม และจะได้สนับสนุนให้เกิดการต่อยอดเป็นสินค้าและงานหัตถกรรมอื่น ๆ โดยเน้นการส่งเสริมให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นผู้ผลิต ทั้งนี้กระทรวงวัฒนธรรมจะสนับสนุนด้านการตลาดและการพัฒนาทักษะฝีมือในการผลิตของคนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้เป็น Soft Power อย่างแท้จริง โดยแนวทางในการดำเนินการต่าง ๆ จะได้กราบเรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป

สำหรับแผนการดำเนินการในระยะยาว รมว.วธ ได้มอบนโยบายให้กรมศิลปากร เผยแพร่ความรู้เรื่องเมืองโบราณในวัฒนธรรมทวารวดี ซึ่งพบว่ายังมีอีกหลายแห่งที่สำคัญในประเทศไทย และมีอายุร่วมสมัยกับเมืองโบราณศรีเทพ เช่น เมืองโบราณอู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เมืองโบราณคูบัว จังหวัดราชบุรี เมืองนครปฐมโบราณ เมืองโบราณจันเสน จังหวัดนครสวรรค์ เมืองศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี เมืองฟ้าแดดสงยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ เมืองโบราณยะรัง จังหวัดปัตตานี ฯลฯ โดยเชื่อว่าเมืองโบราณเหล่านี้ มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต ถือเป็นการต่อยอด ในการที่เมืองโบราณศรีเทพ ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ภายใต้แนวคิด “เมืองทวารวดีที่ห้ามพลาด” นอกจากนั้นยังขอให้กรมศิลปากร ทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเมืองโบราณศรีเทพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ไปพร้อมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป