กรมโยธาธิการ เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ บริเวณคลองน้ำใส จ.กาญจนบุรี ด้วยผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map)

วันที่ 27 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. กรมโยธาธิการและผังเมืองร่วมกับจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริเวณคลองน้ำใส ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ภายใต้แผนงานการพัฒนา ตามผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) นำโดย นายสุวิทย์ เถื่อนน้อย ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นประธาน มีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และภาคีเครือข่าย ร่วมโครงการฯ เป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ผู้นำชุมชน องค์กรภาคเอกชน ส่วนราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดี Change for Good ในพื้นที่

นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมฯ ได้จัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – Social Map) ซึ่งเป็นการน้อมนำศาสตร์พระราชา มาปรับใช้ในการขับเคลื่อนการจัดทำผังภูมิสังคมฯ ทั่วประเทศ 76 จังหวัด เพื่อให้แต่ละหน่วยงานนำข้อมูลไปใช้ในการกำหนดโครงการและกิจกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งให้กับประชาชน พัฒนาเครือข่ายการทำงานแบบบูรณาการของผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้นำชุมชน ประชาชน และภาคีเครือข่ายผังภูมิสังคมเป็นผังที่แสดงสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ในเชิงกายภาพและสังคมวิทยา จัดทำขึ้นด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาโดยยึดหลักภูมิสังคมนี้ คือหลักสำคัญยิ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นกระบวนการที่หน่วยงานภาครัฐเข้าไปแนะนำ อธิบายให้คนในพื้นที่เข้าใจสภาพความเป็นจริงในพื้นที่ ให้คนในพื้นที่ช่วยกันคิดว่าต้องการอะไรจริงๆ และเขียนบันทึกลงในผังภูมิสังคม เพื่อเป็นข้อมูลให้หน่วยงานภาครัฐนำไปใช้วางแผนงานโครงการและกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยอาศัยกลไกความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนในลักษณะภาคีเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนา และเกิดการรักษาให้ยั่งยืน เนื่องจากเป็นโครงการและกิจกรรมที่ตนมีส่วนร่วม และได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

จังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินการจัดทำผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) แล้วเสร็จครบทั้ง 13 อำเภอ 98 ตำบล 959 หมู่บ้าน และได้จัดทำโครงการที่ภาคประชาชนในพื้นที่ ให้ความร่วมมือในการดำเนินงาน โดยไม่ขอสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐ พร้อมทั้งมีภาครัฐ ภาคเอกชน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้การสนับสนุนเครื่องจักรกลในการดำเนินงาน ซึ่งได้นำแผนงาน/โครงการ ที่ได้จากการประชุมผังดังกล่าว ไปสู่การปฏิบัติ ในพื้นที่ครบ ทั้ง 13 อำเภอ โดยจังหวัดกาญจนบุรี กำหนดการจัดพิธีเปิดกิจกรรมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริเวณคลองน้ำใส ตำบลปากแพรก เพื่อจัดเก็บผักตบชวา และวัชพืชที่ปกคลุมพื้นที่ร่องน้ำ ความยาว ประมาณ 700 เมตร ดำเนินการในรูปแบบของภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคราชการ โดยมีเทศบาลเมืองปากแพรก อำนวยความสะดวกในด้านสถานที่การจัดกิจกรรม โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ ซึ่งจะเป็นโครงการนำร่อง พร้อมกับเป็นต้นแบบและตัวอย่างที่ดีให้แก่พื้นที่อื่นๆ ที่จะนำไปพัฒนาพื้นที่ของตนเองต่อไป

นายสุวิทย์ เถื่อนน้อย ผู้ตรวจราชการกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ร่วมกิจกรรม โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริเวณคลองน้ำใส ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ขับเคลื่อนการพัฒนาตามผังภูมิสังคมเพื่อการบริหารจัดการน้ำหมู่บ้าน/ชุมชน แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน (Geo – social Map) เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติให้กับประชาชน ในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม จัดทำขึ้นด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยอาศัยกลไกความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชน ในลักษณะภาคีเครือข่ายความร่วมมือการพัฒนา ซึ่งจะช่วยนำไปสู่เป้าหมายการปฏิบัติภารกิจเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน การดำเนินกิจกรรมโครงการในครั้งนี้ โดยการอาศัยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ภาคเอกชน และภาคราชการ ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาจริงในพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

การพัฒนาตามผังภูมิสังคมฯ ในระดับอำเภอเมืองกาญจนบุรี จะส่งผลกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมที่มีความต่อเนื่องจากหน่วยงาน และองค์กรในระดับพื้นที่ตำบลและอำเภอ ในการพัฒนาพื้นที่โครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามผังภูมิสังคมอย่างมีระบบ เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ ผู้นำชุมชน องค์กรภาคเอกชน ส่วนราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค