นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เผยว่า การพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว (Safety Zone) ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2563 ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อแก้ไขและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ การดูแลความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว และด้านสุขอนามัย และความเป็นธรรม เป็นสำคัญ เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ โดยแบ่งพื้นที่ท่องเที่ยวออกเป็น 5 ประเภท และพัฒนาให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว (Safety Zone) จำนวน 10 พื้นที่ ในช่วง 2 ปีแรก นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยวได้เล่าต่อว่าในปีนี้ ระยะที่ 3 กรมการท่องเที่ยวได้กำหนดแนวทางการพัฒนาออกเป็น 5 ประเด็นสำคัญ ตามแนวคิด “KEEP IT SAFE AND SOUND with 5Es of Safety Zone” พร้อมพัฒนาให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ 1) Environmental Protection Zone : ท่องเที่ยวปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 2) Event Zone : เตรียมความพร้อมความปลอดภัยสำหรับพื้นที่การจัดอีเว้นท์ระดับสากล ในพื้นที่เขตเมือง จังหวัดอุดรธานี 3) Emergency Service Provider : ต้นแบบผู้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในสภาวะฉุกเฉิน ในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล จังหวัดตรัง 4) Eternity Holy Ground : ท่องเที่ยวแห่งศรัทธา บนพื้นฐานความปลอดภัย ในเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยบ้านเกิดหลวงปู่ทวด อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา และ 5) Entertainment Area : ท่องเที่ยวสุขใจ พร้อมปลอดภัย วิถีไทย วิถีชุมชน ในพื้นที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งนับได้ว่าเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ผ่านกระบวนการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่ การจัดทำหลักเกณฑ์ความปลอดภัย การจัดอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ และการลงพื้นที่ให้คำแนะนำ พร้อมประเมินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
กรมการท่องเที่ยวได้พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว (Safety Zone) เป็นปีที่ 3 และยังมีแผนดำเนินการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง และลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศ