วันที่ 18 กันยายน 2566 ผทท. นำทีมผู้บริหาร ททท. ประกอบด้วย รผอ. รผส. และ รผย. ร่วมประชุมกับผู้เกี่ยวข้องทั้ง สมาคมท่องเที่ยว สายการบิน ผู้ประกอบการโรงแรม และ DMC เพื่อหารือและรับฟังกระแสตอบรับต่อนโยบายการยกเว้นวีซ่า (Visa Exemption) ให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน โดยมีระยะเวลาพำนักไม่เกิน30 วัน ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 25 กันยายน 2566-29 กุมภาพันธ์ 2567
ทั้งนี้ รผอ. และ รผย. ได้นำเสนอโอกาสที่จะสามารถอำนวยความสะดวกให้เกิดการเดินทางมายังประเทศไทยของนักท่องเที่ยวทั้งสองชาติได้สอดคล้องตาม Demand ที่เพิ่มขึ้นหลังจากมีการประกาศ Visa Exemption อีกทั้งจะดำเนินกิจกรรม Joint Promotion ร่วมกับพันธมิตรเพื่อส่งเสริมการขายกระตุ้นให้เกิดเดินทางมากขึ้นอีก
ทั้งนี้ พบว่าข่าว Visa Exemption ขึ้นเป็น Hot Topic ในสื่อออนไลน์จีน อาทิ Sina และ Weibo ยอดจองจาก OTA เช่น Ctrip เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม FIT ในด้านการบิน Load Factor จากเมืองหลักอยู่ที่ 90% เมืองอื่น ๆ 70-75%
ผู้ประกอบการให้ข้อมูลว่า ภาพรวมเสียงตอบรับนโยบาย Visa Exemption ทั้งสองตลาดเป็นไปในทางบวก และผู้ประกอบการในพื้นที่ตื่นเต้น บรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยสายการบินเองได้แจ้งว่ามีแผนเพิ่มเที่ยวบิน หรือเพิ่มขนาดเครื่องบินเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
Air Astana สายการบินแห่งชาติคาซัคสถานแจ้งว่าปัจจุบัน มีไฟลท์มาไทยราว 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ลงที่ภูเก็ตและกรุงเทพฯ มี Load Factor ของ Schedule Flight ที่ 90-95% แต่มีแผนจะเพิ่มเป็น Daily และยังสามารถเพิ่มเที่ยวบิน Charter Flight เพื่อตอบรับกับ Demand ที่เพิ่มขี้นเรื่อย ๆ โดยคาดการณ์ว่า Demand จะยังมีต่อเนื่องไปอย่างน้อย 2 ปี
ยังมีคำแนะนำเพิ่มเติมจากภาคเอกชนและสายการบินว่า ขอให้ ททท. ช่วยสร้างความเข้าใจและสร้างภาพลักษณ์อันดีด้านความปลอดภัยในตลาดจีนอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้เร่งประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวมาไทยเพื่อหล่อเลี้ยง Demand ให้อยู่ในระดับสูง เพื่อให้สามารถมุ่งเป้านักท่องเที่ยวจีน 4.01-4.4 ล้านคน และเป้านักท่องเที่ยวคาซัคสถาน 150,000 คน