กรมบังคับคดีเผยสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่า มีค่าเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นถึง 9.20

วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566 เวลา 13.30 น. นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี ร่วมกับ รองศาสตราจารย์ พันตำรวจเอกหญิง ดร.กัญญ์ฐิตา ศรีภา และคณะผู้วิจัย บริษัท พีเอเอส คอนซัลแทนท์ แอนด์ รีเซิร์ช จำกัด แถลงผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยผลจากการสำรวจพบว่า ค่าเฉลี่ย 9.20 คะแนน เชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีในภาพรวม ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มีค่าเฉลี่ย 9.11 คะแนน

นางทัศนีย์ เปาอินทร์ อธิบดีกรมบังคับคดี แถลงว่า กรมบังคับคดีมีภารกิจด้านการบังคับคดีแพ่ง คดีล้มละลาย การฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ การชำระบัญชี การวางทรัพย์และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีภายหลังคำพิพากษาเป็นกระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง โดยดำเนินการตามขั้นตอนและตามกฎหมายให้ความเป็นธรรม โปร่งใส และอำนวยความสะดวกแก่คู่ความทุกฝ่ายในคดี รวมถึงประชาชนผู้รับบริการตามแผนปฏิบัติราชการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ของกรมบังคับคดี และกำหนดยุทธศาสตร์ การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยมีเป้าหมาย เพื่อการทำงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวมตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส พร้อมปรับตัว ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง มีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรมเป็นไป เพื่อประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนรวมของประเทศ นอกจากนี้ยังได้มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นถึง ความต้องการและประโยชน์สุขแก่ประชาชน ตลอดจนความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการเป็นหลักสำคัญ และเพื่อให้ เกิดการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไปสู่การพัฒนาองค์การ โดยสานต่องานเดิมสร้างเสริมงานใหม่ ผ่านกลยุทธ์ที่สำคัญ ภายใต้ “Change Better to Be LED 5G+” ต่อยอด สร้างสรรค์เน้นคุณค่า อย่างยั่งยืน
ดังนั้น การนำความคิดเห็นจากผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้เสียนำมาพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลของงานราชการและการบริการประชาชน ตลอดจนการสนับสนุนการปรับปรุงการให้บริการดียิ่งขึ้น โดยเน้นประชาชนเป็นหลัก จึงได้มีการสำรวจการวิจัย “โครงการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมอบหมายให้ บริษัท พีเอเอส คอนซัลแทนท์ แอนด์ รีเซิร์ช จำกัด เป็นผู้ดำเนินการตามโครงการนี้เพื่อให้การสำรวจมีความเป็นมาตรฐาน น่าเชื่อถือเป็นที่ยอมรับ ตลอดจนมีความเป็นกลาง ปราศจากอคติในการสำรวจ จึงมีผู้ประเมินอิสระจากภายนอกเป็นผู้ดำเนินการโครงการฯ

รองศาสตราจารย์ พันตำรวจเอกหญิง ดร.กัญญ์ฐิตา ศรีภา และคณะผู้วิจัย บริษัท พีเอเอส คอนซัลแทนท์ แอนด์ รีเซิร์ช จำกัด แถลงว่า การวิจัยสำรวจในครั้งนี้ เป็นการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของกระบวนการบังคับคดีให้ครอบคลุมใน 6 กระบวนการ ได้แก่ (1) กระบวนการบังคับคดีแพ่ง (2) กระบวนการบังคับคดีล้มละลาย (3) กระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ (4) กระบวนการไกล่เกลี่ข้อพิพาทชั้นบังคับคดี (5) กระบวนการประมูล ซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด และ (6) กระบวนการวางทรัพย์ และสำรวจการรับรู้ การใช้และความพึงพอใจของเครื่องมือที่กรมบังคับคดีได้จัดทำขึ้น โดยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการที่มีต่อกระบวนการบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากกลุ่มประชากรเป้าหมายจำนวนทั้งสิ้น 3,680 รายทั่วประเทศ การสำรวจครั้งนี้ดำเนินการในวิธีการรวบรวมข้อมูล ๓ ลักษณะ คือ (1) การสำรวจด้วยแบบสอบถาม (2) การสัมภาษณ์เชิงลึก และ (3) การจัดสนทนากลุ่ม โดยผลการสำรวจชื่อมั่นและความพึงพอใจของประชาชนในภาพรวม มีค่าคะแนนดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา สรุปผลการสำรวจได้ ดังนี้

ความเชื่อมั่นของประชาชนผู้รับบริการต่อกระบวนการบังคับคดี
ค่าเฉลี่ย 9.20 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีโดยภาพรวม
ค่าเฉลี่ย 9.20 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีแพ่ง
ค่าเฉลี่ย 9.18 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการบังคับคดีล้มละลาย
ค่าเฉลี่ย 9.16 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
ค่าเฉลี่ย 9.22 มีความความเชื่อมั่นต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
ค่าเฉลี่ย 9.20 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด
ค่าเฉลี่ย 9.24 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการวางทรัพย์

ความพึงพอใจของประชาชนผู้รับบริการต่อกระบวนการบังคับคดี
ค่าเฉลี่ย 9.36 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีโดยภาพรวม
ค่าเฉลี่ย 8.98 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีแพ่ง
ค่าเฉลี่ย 8.96 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการบังคับคดีล้มละลาย
ค่าเฉลี่ย 9.48 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
ค่าเฉลี่ย 9.56 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี
ค่าเฉลี่ย 9.58 มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการประมูลซื้อทรัพย์/การขายทอดตลาด
ค่าเฉลี่ย 9.54 มีความพึงพอใจต่อกระบวนการวางทรัพย์

การรับรู้บทบาทหน้าที่และการทำงานของกรมบังคับคดีที่ส่งผลดีหรือเป็นประโยชน์
ค่าเฉลี่ย 8.14 ได้ปฏิบัติตามตามคำพิพากษา (เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้และลูกหนี้ได้ชำระหนี้)
ค่าเฉลี่ย 8.20 การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีเปิดโอกาสให้เข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ค่าเฉลี่ย 8.18 ช่วยเสริมสร้างสภาพคล่อง และการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยการผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดี เช่น การขายทอดตลาด

การดำเนินงานที่เป็นจุดเด่น

นโยบายชัดเจน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20ปี (พ.ศ. 2561 – 2580)
ยึดหลักกฎหมาย ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เป็นธรรม และจิตบริการ
เน้นคุณภาพการบริการ ไม่เลือกปฏิบัติ ผู้รับบริการเชื่อมั่นและพึงพอใจ
นำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนกระบวนงานตามภารกิจหลักและระบบ Back office
เน้นประชาสัมพันธ์หลากหลายช่องทาง และประชาสัมพันธ์เชิงรุกทั้งในเชิงป้องกันและแก้ไขปัญหา
มีกระบวนการบังคับคดีที่ช่วยเหลือและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นและผู้มีส่วนได้เสีย