กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดย สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนนทบุรี ฝึกทักษะแรงงานนอกระบบ จัดหนัก 3 สาขากว่า 100 คน
นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า แรงงานนอกระบบ มีกว่า 21.2 ล้านคน โดยมีแรงงานนอกระบบร้อยละ 55.5 ทำงานอยู่ในภาคเกษตรกรรม รองลงมาเป็นภาคการบริการและการค้าร้อยละ 33.2 และภาคการผลิตร้อยละ 11.3 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังเป็นแรงงานที่ประกอบอาชีพอิสระอื่นๆ ด้วย มีรายได้ไม่แน่นอน และส่วนหนึ่งมีรายได้ไม่เพียงพอในการใช้จ่ายภายในครอบครัว กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตระหนักและให้ความสำคัญต่อแรงงานทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งการพัฒนาทักษะให้กับแรงงานนอกระบบ กพร.ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กำลังแรงงานมีศักยภาพสูงขึ้น ล่าสุดสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนนทบุรี ได้ดำเนินการฝึกอาชีพให้กับแรงงานกลุ่มนี้เกือบ 100 คน รวม 3 สาขา ได้แก่ สาขาอาหารไทย 25 คน สาขาขนมไทย 25 คน สาขาการเพิ่มมูลค่าจากเรซิ่น 20 คน นอกจากนี้ยังฝึกอาชีพแปรรูปสมุนไพร ให้กับผู้สูงอายุที่สนใจเข้าร่วมโครงการอีก 20 คน
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า ทุกคนจะได้ฝึกอาชีพตามความถนัดและความชอบ โดยมีครูฝึกมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาเป็นผู้ฝึกสอนให้ตลอดระยะเวลาการฝึก 3 วัน ผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่จะเป็นผู้ว่างงานผู้ประกอบอาชีพอิสระในด้านต่างๆ ทั้งค้าขาย ทำอาหาร บางคนเป็นพ่อบ้าน แม่บ้าน และสนใจที่จะหารายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัว ในปี 2562 มีเป้าหมายดำเนินการทั่วประเทศ จำนวน 8.420 คน ดำเนินการแล้ว 8.982 คน
นายชัยชนะ เดชแพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนนทบุรี (สนพ.นนทบุรี) กล่าวว่า สาขาผู้ประกอบอาหาร ฝึกทำอาหารในเมนูที่เป็นที่นิยมของตลาด และตามร้านอาหารชื่อดัง ทั้งหมด 9 อย่าง อาทิ ปลาทับทิมอกระเบิด ซึ่งเซฟจะสอนทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือก ล้าง หั่น จนถึงทอด และ ตกแต่งให้สวยงามน่ารับประทาน ผ่านเคล็ดลับความอร่อยแบบสูตรเฉพาะของเซฟที่ถ่ายทอดให้ ส่วนกลุ่มคนที่รักงานฝีมือได้เลือก นำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คนนิยมกราบไหว้ อาทิ องค์พระพิฆเนศ มาเพิ่มมูลค่าในสาขา เพิ่มมูลค่าจากเรซิ่น โดยฝึกตั้งแต่ขั้นตอนหล่อ ทาสี ไปจนถึงตกแต่งอย่างสวยงามตามจินตนาการ ของแต่ละคน ซึ่งนอกจากสร้างรายได้ จากการนำไปขายตามร้านสังฆภัณฑ์แล้ว ยังฝึกสมาธิและความอดทนด้วย ราคาองค์ละ 1,500 – 2,500 บาท ต้นทุนในการทำไม่เกิน 1,000 บาท อีกสาขาที่ดำเนินการฝึกคือ ขนมไทย ฝึกทำขนมไทยกว่า10 ชนิด ที่คนนิยมทาน เช่น เปียกปูนกะทิสด สำหรับผู้สูงอายุ ฝึกการแปรรูปสมุนไพรซึ่งเหมาะกับวัยและสุขภาพ อาทิ การแปรรูปสมุนไพรเป็นยาทาแก้ปวดตามร่างกาย ยาทากันยุงแมลงกัดต่อย และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน
“ทุกอาชีพที่ได้รับการฝึก ล้วนแล้วแต่นำไปต่อยอดสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนในชุมชน สามารถนำไปประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวให้พอมีพอกินในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ ของภารกิจที่สร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับคนในชุมชน ช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของแรงงานไทยได้อย่างยั่งยืน” อธิบดี กพร. กล่าวทิ้งท้าย