DITP แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยจับตาตลาดเครื่องประดับแฟชั่นในสหรัฐ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ แนะผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยจับตาตลาดเครื่องประดับแฟชั่นในสหรัฐอเมริกา หลังผลศึกษาพบมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง เผยต่างหูและหวาน จะเป็นสินค้าที่ขายดี ตามด้วยสร้อยคอและจี้ จับตาเครื่องประดับแฟชั่นไร้แบรนด์มาแรง ขณะที่สินค้าที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีจะได้รับความนิยมสูงขึ้น ส่วนช่องทางจำหน่าย ร้านบูติก ยังใหญ่ที่สุด แต่ช่องทางออนไลน์กำลังเติบโต

นางสาวอุษาศรี เขียวระยับ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ชิคาโก สหรัฐอเมริกา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงตลาดสินค้าเครื่องประดับแฟชั่นในสหรัฐอเมริกา ว่า บริษัทวิจัย Persistence Market Research ได้จัดพิมพ์รายงานฉบับล่าสุด “การวิเคราะห์และการคาดการณ์ตลาดอุตสาหกรรมเครื่องประดับแฟชั่น” ในสหรัฐอเมริกา จนถึงปี 2567 พบว่าตลาดเครื่องประดับแฟชั่นในสหรัฐอเมริกาจะมีการขยายตัวอย่างมั่งคง และคาดว่าภายในปี 2567 จะมีมูลค่ามากกว่า 20,289.3 ล้านเหรียญสหรัฐ มีอัตราการขยายตัว 5.2% ต่อปี

สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะขายดีที่สุด คือ ต่างหูและแหวน คาดว่า จะมีมูลค่ามากกว่า 7,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่สินค้าประเภทสร้อยคอและจี้ จะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเครื่องประดับแฟชั่นไร้แบรนด์ จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สินค้าที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการผลิต จะได้รับความนิยมมากขึ้น และสินค้าที่จำหน่ายในช่วง 50-100 เหรียญสหรัฐ ยังคงได้รับความนิยม แต่ผู้บริโภคจะมีความต้องการซื้อสินค้าที่มีราคาแพงตั้งแต่ 220 เหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น

ส่วนช่องทางการจำหน่าย ร้านค้าปลีกบูติกแบรนด์ต่างๆ ยังคงเป็นช่องทางการกระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเครื่องประดับแฟชั่น แต่ช่องทางออนไลน์ กำลังจะเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยม และมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพบว่า ไทยเป็นแหล่งนำเข้าเครื่องประดับเงินสำคัญเป็นอันดับที่ 2 ในตลาดสหรัฐอเมริกา มีสัดส่วนตลาดที่ 5% หรือมีมูลค่าการนำเข้า 66 ล้านเหรียญสหรัฐ และเพิ่มขึ้น 1.25% โดยจีนครองส่วนแบ่งตลาด 72% ในสหรัฐอเมริกา แต่สถานการณ์ในปัจจุบัน หากสงครามการค้ายังคงยืดเยื้อ จะเป็นโอกาสสำหรับเครื่องประดับไทย ที่จะขยายตลาดสหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเครื่องประดับแฟชั่น และเครื่องประดับแฟชั่นแบบพรีเมี่ยม ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าในตลาดสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มมากขึ้น

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ ชิคาโก สหรัฐอเมริกา โทร  001-1-312 787-3388 หรือกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169

******************************************************

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ