กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ชวนเที่ยวมหกรรมงานช้อป ครั้งยิ่งใหญ่ “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี ปี 2566” ตระการตากับผ้าไทยใส่ให้สนุก ชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ หัตถศิลป์อันทรงคุณค่าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และสุดยอดสินค้า OTOP ทั่วไทย พร้อมอร่อยล้ำกับ OTOP ชวนชิม นัดช้อปพร้อมกัน 12 – 20 สิงหาคม นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
วันที่ 7 สิงหาคม 2566 เวลา 10.30 น. นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เดินทางไปยังสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 เพื่อโปรโมทงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี ปี 2566” ในรายการแซ่บพาซ่าส์ ภายใต้แนวคิด“ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชา อย่างยั่งยืน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรง ที่ทรงส่งเสริมอาชีพและช่วยเหลือราษฎรให้มีอาชีพเสริม เพิ่มพูนรายได้อย่างกว้างขวางนะครับ
นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ภายในงานก็จะมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และมีอยู่หลายโซนด้วยกัน เพราะพื้นที่การจัดงานเรามีมากถึง 60,000 ตารางเมตร โซนที่น่าสนใจ เช่น โซนศิลปิน OTOP ซึ่งทุกท่านก็จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น วิจิตรตระการตา เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ด้วยทักษะเชิงช่าง และเป็นงานศิลป์ชั้นยอด อาทิ ชุดเครื่องเงิน : ที่เห็นนี้ ( INS เครื่องเงิน ชุด คอปกนางพญาเครือวัลย์ จากร้าน มนตรีเครื่องเงิน ) ศิลปินที่สร้างสรรค์งาน เค้าได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เห็นคนใส่เสื้อเชิ้ต ก็เลยคิดที่จะทำให้คอปกเสื้อดูสวยงาม และอลังการมากขึ้น ก็เลยออกแบบสร้อยคอประดับลายเครือวัลย์ขึ้นมา เมื่อสวมทับแล้ว ก็จะดูสง่างามมากขึ้น และก็ออกแบบกำไลข้อมือเพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อให้เข้าชุดกัน นอกจากนี้ ก็ยังมีชิ้นงานอื่น ๆ อีกมากมายครับ อันนี้เป็นแค่ตัวอย่างให้ได้ชมกัน ผ้าทอลายโบราณ จ.อุทัยธานี : ใครที่ชอบผ้าไทยน่าจะชอบ เป็น ผลิตภัณฑ์ผ้าจกไหมแต้มตะกอ ทุกผืนได้รับการออกแบบสี และลวดลายเฉพาะตัว เป็นการอนุรักษ์ลวดลายโบราณ ด้วยเทคนิคการทอผ้าจกของกลุ่มชาติพันธุ์ไทครั่ง ซึ่งมีอยู่ในท้องถิ่น มาประยุกต์รูปแบบและลวดลายให้มีเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อสร้างคุณค่าของงานผ้าจกไหม โดยได้ยกตัวอย่างผ้าจกไหมปทุมพล ซึ่งมีราคาสูงถึง 180,000 บาท เป็นงานฝีมือที่ต้องอาศัยทั้งทักษะและเทคนิคการทอผ้าตามภูมิปัญญาดั้งเดิม ลวดลายเป็นลายดอกบัวทั้งผืน ราคาอาจจะสูงสำหรับคนทั่วไป เพราะเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม แต่ภายในงานเรายังมีสินค้า และผลิตภัณฑ์จากผ้าไทยให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่ 3 – 5 ดาว แล้วก็มีทั้งผ้าไหม ผ้าฝ้าย รวมทั้งกลุ่มสินค้า BCG ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เป็นสินค้าอัตลักษณ์ที่โดดเด่น และเป็นที่ต้องการของตลาด อย่างเช่น กระเป๋าถือจากใบจามจุรี หรือใบฉำฉา จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ศิรดา (DE BUA) จ.ลำปาง เป็นกระเป๋าที่ทำมาจากใบจามจุรี ซึ่งมีจำนวนมากในท้องถิ่น ชาวบ้านนิยมทำเป็นปุ๋ยหมัก แต่ทางผู้ประกอบการได้มีไอเดียสร้างมูลค่า จึงนำมาประยุกต์ให้เป็นกระเป๋าด้วยเทคนิคเฉพาะตัว โดยนำใบซี่งมีหลายขนาด ทั้งเล็ก-ใหญ่ มีหลายสีจากใบอ่อน แก่ ใช้การหมักด้วยน้ำให้นุ่ม โรยบนพื้นผ้าให้เป็นพื้น เกิดเป็นลายซับซ้อนโดยคงความเป็นธรรมชาติ และคงเป็นเอกลักษณ์ของใบจามจุรีไว้
นอกจากนี้ สินค้ากลุ่มสมุนไพร ของใช้ ของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม จากทั่วประเทศรวมกว่า 1,500 บูธ รวมของดีมาให้แล้วทั้งหมดจากทั่วประเทศ อาทิ ผลิตภัณฑ์กลุ่มสมุนไพร แบรนด์ คีเฟอร์ บัวหิมะทิเบต เป็นผลิ่ตภัณฑ์ OTOP 5 ดาว จาก จ.ราชบุรี สำหรับใช้ทำความสะอาดผิวหน้า ล้างเครื่องสำอาง และบำรุงในขั้นตอนเดียวกัน เป็นการผสมผสานภูมิปัญญาและผลิตภัณฑ์ที่มีในชุมชน คือ น้ำนมแพะ กับวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางค์ได้อย่างน่าสนใจ คือ นำน้ำนมแพะมาหมักในยีสสายพันธุ์เฉพาะ จนเป็นโยเกิร์ตธรรมชาติ เพื่อใช้เป็นตัวตั้งต้นในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเน้นผลิตภัณฑ์ บำรุงและทำความสะอาดผิวหน้า ที่ปราศจากสารกันเสีย น้ำหอม และแอลกอฮอล์ ด้านของกินเรามี OTOP ชวนชิม ถึง 176 บูธ จากทั่วประเทศ ทั้งอาหารคาว – หวาน เครื่องดื่ม ของกินเล่น ผักผลไม้
นายวรงค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากที่เอามาโชว์ในรายการวันนี้แล้ว ในงาน OTOP ศิลปาชีพ ปีนี้ หนึ่งในจุดเช็คอินที่สายแชะ ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ ประติมากรรมรูปปั้นหนุมาน ที่จะมายืนโดดเด่นอยู่ในพื้นที่โซนศิลปิน OTOP ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผลงานหัตถศิลป์ชั้นยอด ซึ่งนอกจากจะมีเครื่องเงินที่ ก็มีขันน้ำมนต์ถมทอง 14 นิ้ว ลายชาดกทศชาติ จ.นนทบุรี / ภาพแกะสลักหนังตะลุง ชุดรามเกียรติ์ จ.นครศรีธรรมราช / ผ้าตีนจก จ.แพร่ / ผ้าไหมแพรวา จ.กาฬสินธุ์ /กระเป๋ากระจูดปักมือภาพถวายพระพร จ.พัทลุง /ทองรูปพรรณลายโบราณ จ.สุโขทัย
ภายในงานยังมีโซนสินค้าและผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ / โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก ซึ่งปีนี้มีการจัดแสดงผ้าไทยจาก 3 โมเดล ได้แก่ ดอนกอยโมเดล นาหว้าโมเดล และบาติกโมเดล / โซน First Lady เป็นโซนจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ตัดเย็บอย่างประณีต ที่ผ่านเวทีแฟชั่นโชว์ระดับโลกมาแล้ว รวมทั้งผ้าอัตลักษณ์ประจำถิ่น ที่ได้รับการออกแบบดีไซน์ให้มีความร่วมสมัย เรียกว่าระดับพรีเมียมทุกชิ้น เช่น ห้องเสื้อดีเทล จ.นครราชสีมา / ศูนย์เรียนรู้และออกแบบขวัญตา จ.หนองบัวลำภู และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างเช่น Health & สปา ใครเดินช้อปจนเหนื่อย ก็ใช้บริการนวดก่อนได้ เรามีพื้นที่กั้นให้เป็นสัดส่วน เพลิดเพลินกับแสดงศิลปวัฒนธรรมมินิคอนเสิร์ต กิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดแสดงสินค้าของหน่วยงานภาคี และสินค้า OTOP ทั้ง 5 ประเภท รวมกว่า 1,500 บูธ ครับ
“ท้ายนี้ ขอเชิญชวนทุกท่าน อย่าลืมมาชิม มาช้อป กันให้ได้ ในงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี ปี 2566” แต่ถ้าใครไม่สะดวกมาช้อปที่งานจริงๆ ปีนี้ เราก็มีให้ไปเลือกช้อปออนไลน์ ที่ Shopee ก็มีให้เลือกช้อปได้ แต่อาจไม่จุใจและตระการตาเท่าเดินในงาน ฉะนั้น ถ้าได้ช้อปออนไลน์แล้ว ช่วง 12-20 สิงหาคมนี้ ต้องหาวันว่างสัก 1 วัน มาช้อปที่งานกันให้ได้นะครับ” นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวทิ้งท้าย