อัตราเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ชะลอลงสู่ 0.23% จากราคาอาหารสดและราคาพลังงาน

Key Highlights

  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. ขยายตัว 0.23%YoY ชะลอลงจากหมวดอาหารสดตามราคาเนื้อสุกรและผักสดที่ลดลงเป็นสำคัญ ขณะที่หมวดพลังงานหดตัวจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลดลงและผลของฐานปีก่อนที่สูงขึ้น ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอลงที่ 1.32%YoY จากหมวดตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล หมวดบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์
  • Krungthai COMPASS ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มชะลอลงมาสู่ระดับ 1.9% จากเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่อาจขยายตัวได้ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาน้ำมันขายปลีกมีทิศทางปรับสู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนตามราคาน้ำมันดิบที่ชะลอลง และคาดว่าราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะไม่เกินระดับ 32 บาทต่อลิตรในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าในหมวดอาหารสดและหมวดพื้นฐานยังทยอยเพิ่มขึ้นตามการส่งผ่านราคาสินค้า และอาจเป็นปัจจัยกดดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับสูงกว่าอดีต

ชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง Krungthai COMPASS

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 0.23% ชะลอลงจากหมวดอาหารสดและพลังงานเป็นสำคัญอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน พ.ค. ขยายตัว 0.53%

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. ขยายตัว 0.23%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 0.53%YoY แต่สูงกว่ากวิเคราะห์คาดไว้ที่ -0.1%  [1]จากราคาหมวดอาหารสดที่ชะลอลงสู่ 3.92%YoY จากเดือน พ.ค. ที่ 4.70%YoY ตามราคาของเนื้อสุกรและผักสดที่ลดลงเป็นสำคัญ ขณะที่หมวดพลังงานหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ที่ -9.11%YoY โดยราคาน้ำมันเชื้อเพลิงหดตัวมากขึ้นตามราคาที่ปรับลดลงและผลของฐานปีก่อนที่สูงขึ้น แต่ค่ากระแสไฟฟ้ากลับมาขยายตัวตามการสิ้นสุดมาตรการลดค่าไฟฟ้า 150 บาทต่อครัวเรือน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย

สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยายตัว 1.32%YoY ชะลอลงเทียบกับ 1.55%YoY ในเดือนก่อน จากการชะลอลงในหมวดตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล หมวดบันเทิง การอ่าน การศึกษาฯ และหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ ขณะที่หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ขยายตัวเร่งขึ้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 6 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 2.49% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.87%

Implication:

  • Krungthai COMPASS คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 มีแนวโน้มชะลอลงมาสู่ระดับ 1.9% จากเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่ปรับลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันขายปลีกที่มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อนตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ชะลอลงเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่แผ่วกว่าคาด อีกทั้ง คาดว่าราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะไม่เกินระดับ 32 บาทต่อลิตรในช่วงที่เหลือของปี แม้ว่าภาครัฐจะไม่ต่อมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ที่จะสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค. 66 แต่คาดว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะสามารถเข้ามาช่วยเหลือผ่านการลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากปัจจุบันที่เก็บชดเชยเข้ากองทุนฯ จากน้ำมันดีเซลประมาณ 4-5 บาทต่อลิตร เนื่องจากฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบน้อยลงเหลือ 5.5 หมื่นล้านบาท ณ ต้นเดือน ก.ค. 66 จากที่เคยติดลบสูงถึง 1.2 แสนล้านบาทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Krungthai COMPASS คาดว่าราคาน้ำมันซึ่งอยู่ในระดับต่ำกว่าปีก่อนต่อเนื่องจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีเฉลี่ยอยู่ที่ 1.9% สอดคล้องกับที่กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อมาอยู่ที่ 1.0-2.0% อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าบางรายการในหมวดอาหารสดและหมวดพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารสดและพลังงาน) ยังมีแนวโน้มทยอยเพิ่มขึ้นตามการส่งผ่านราคาสินค้าจากต้นทุนการผลิตที่อยู่ในระดับสูง และจะเป็นปัจจัยกดดันให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับสูงกว่าอดีต

[1] อ้างอิงจาก Reuter Polls (as of July 2023)