กรุงเทพฯ 14 มิถุนายน 2566 – นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด กลุ่มธุรกิจการตลาด พร้อมด้วยผู้บริหารบางจากฯ และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รองผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และ พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผู้บังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ตอท.บช.สอท.) ร่วมเปิดโครงการรณรงค์สร้างความตระหนักรู้และป้องปรามภัยอาชญากรรมออนไลน์ ณ สถานีบริการน้ำมันบางจาก สาขาถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันภัยจากอาชญากรรมออนไลน์เป็นอีกหนึ่งในภัยคุกคามที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ รวมถึงยังลุกลามในสังคมไทยอย่างรวดเร็ว บางจากฯ ตระหนักถึงผลกระทบต่อสังคมที่รุนแรงของภัยดังกล่าว ดังนั้น นอกจากจะมีการจัดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลและให้ความรู้เรื่องภัยจากอาชญากรรมออนไลน์ให้กับพนักงานในองค์กรแล้ว ในครั้งนี้ยังร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รณรงค์สื่อสารเตือนภัยอาชญากรรมออนไลน์ ณ สถานีบริการน้ำมันบางจากทั่วประเทศกว่า 1,300 สาขา ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเข้าถึง สร้างความรู้ความเข้าใจ พร้อมเสริมเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ให้กับประชาชนได้มากขึ้น เพราะแต่ละวันมีผู้ใช้บริการสถานีบริการน้ำมันบางจากจำนวนมาก ทั้งเติมน้ำมัน ใช้บริการธุรกิจเสริมต่างๆ ที่มีอยู่อย่างครบครัน รวมทั้งใช้บริการห้องน้ำสะอาด จึงมองว่าสถานีบริการน้ำมันบางจากจะสามารถเป็นสื่อกลางในการช่วยหน่วยงานของรัฐเตือนภัยและป้องปราม เป็นส่วนหนึ่งในการยุติอาชญากรรมออนไลน์ และการทำทุจริตในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำระบบรับแจ้งความออนไลน์ไว้ให้บริการประชาชน โดยประชาชนสามารถใช้ช่องทางการแจ้งความ แจ้งเบาะแส และให้คำปรึกษาได้ที่ www.thaipoliceonline.com หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรผ่านสายด่วน 1441 สำหรับช่องทางประชาสัมพันธ์เตือนภัยออนไลน์ ประชาชนสามารถศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์รูปแบบต่างๆ ผ่านทาง www.เตือนภัยออนไลน์.com หรือ Facebook https://www.facebook.com/เตือนภัยออนไลน์ ทั้งนี้ การได้รับการสนับสนุนจากบางจากฯ ติดตั้งสื่อภายในสถานีบริการน้ำมันบางจาก เช่น ภายในห้องน้ำชาย-หญิง เป็นต้น จะช่วยสร้างการรับรู้ถึงข้อมูลและข่าวสารได้อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลหรือช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันที่จะมีผู้ใช้บริการเดินทางเข้ามาใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันบางจากเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขอบคุณ บางจากฯ เป็นอย่างยิ่งที่สนับสนุนกิจกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากขอให้ภาคเอกชนร่วมกันรณรงค์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แถลงข่าวภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาก 5 อันดับ ได้แก่ 1 คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 3) คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 4) คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) และ 5) คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงคดีที่น่าสนใจเพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบและรู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ทุกสัปดาห์ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองได้ โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ