สหกรณ์การเกษตรในสตูล เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมอาชีพแก้หนี้สินสมาชิกสหกรณ์ พร้อมขยายผลสู่เกษตรเชิงท่องเที่ยว นำผลผลิตสู่ตลาดต่างประเทศ

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่สตูลตามความคืบหน้าการส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้แก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ ให้เตรียมขยายผลสู่สมาชิกสหกรณ์อื่น พร้อมเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ และหนุนทำเกษตรกรรมหลากหลาย นำไปสู่การเกษตรเชิงท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้สมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วย นางรอซนานี สันหมุด หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม นายถาวรศักดิ์ รัตนชูศรี สหกรณ์จังหวัดสตูล และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรผสมผสานของ นายวินัย สําเร สมาชิกสหกรณ์การเกษตรละงู จำกัด ณ บ้านเลขที่ 236 หมู่ 2 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยทำเกษตรผสมผสานบนพื้นที่ 20 ไร่ ปลูกไม้ผล ได้แก่ จำปาดะ ทุเรียน ลองกอง ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว และเลี้ยงปลาดุก น้ำผึ้งโพรงไทย ในรอบปีที่ผ่านมามีรายได้จากการขายผลผลิตทางการเกษตร รวม 382,000 บาท โดยขายเองหน้าสวน ขายให้สหกรณ์และผ่านช่องออนไลน์ ซึ่งได้รับสนับสนุนเงินทุนจากโครงการเงินกู้เพื่อสร้างอาชีพเสริมให้แก่สมาชิก 150,000 บาท เพื่อใช้เป็นทุนจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการพัฒนาระบบน้ำในสวนจำปาดะ และผลิตกล่องเลี้ยงผึ้งโพรงไทยเพื่อเป็นรายได้เสริมด้วย

จากนั้น อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมแปลงเกษตรผสมผสานของนางพัชรี ทิ้งน้ำรอบ สมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการเกษตรวิถีใหม่ ณ บ้านเลขที่ 55/2 หมู่ 5 บ้านท่าแพใต้ ตำบลท่าแพอำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล ซึ่งได้ทำการเกษตรบนพื้นที่ 9 ไร่ แบ่งเป็น 3 แปลง โดยแปลงที่ 1 เนื้อที่ 4 ไร่ ปลูกสละ ขนุน เงาะ กระท้อน ขณะนี้ยังไม่ให้ผลผลิต ปลูกพริก กล้วย โหระพา แปลงที่ 2 เนื้อที่ 3 ไร่ ปลูกละมุด 140 ต้น และแปลงที่ 3 ปลูกโหระพา มีรายได้จากการขายผลผลิตให้กับพ่อค้าคนกลางประมาณ 291,000 บาท/ปี โดยได้เข้าร่วมโครงการเกษตรวิถีใหม่ และได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 200,000 บาท เพื่อใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรในการปลูกสละ เพื่อซื้อปัจจัยการผลิตพันธุ์สละ ปุ๋ย ระบบน้ำและรวมไปถึงการปลูกพืชแบบผสมผสานเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกด้วย

นายวิศิษฐ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสหกรณ์การเกษตรต่าง ๆ จะพบปัญหาว่าเกษตรกรส่วนหนึ่ง ประกอบอาชีพแล้วไม่ประสบผลสำเร็จทำให้เกิดปัญหาเรื่องหนี้สินค้างชำระกับสหกรณ์ ปัญหาหนึ่งคือการประกอบอาชีพเชิงเดี่ยวของเกษตรกร ในช่วงราคาตกต่ำ เกษตรกรจะไม่มีรายได้เพียงพอใช้จ่ายในครอบครัว จึงได้ให้นโยบายสหกรณ์จังหวัดและสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ ให้ส่งเสริมปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตการทำการเกษตรของพี่น้องสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งในหลายพื้นที่ทำได้เป็นอย่างดี

“จากที่ตรวจเยี่ยมแปลงของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรทั้ง 2 แห่ง ที่ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใช้เกษตรแผนใหม่ คือ ปลูกหลาย ๆ อย่างในพื้นที่ของตัวเอง จากการที่ดูเกษตรกรไม่ได้มีพื้นที่มากมาย บางคนมี 5 ไร่ 7 ไร่ แต่ปรับเปลี่ยนให้พื้นที่ทางการเกษตรของตัวเอง สามารถสร้างรายได้ทุกวัน ทั้งปลูกผัก ปลูกข้าวโพดหวานสำหรับบริโภค นำไปขายในตลาด มีพืชที่สร้างรายได้รายเดือน และพืชรายปี ปลูกไม้ผลต่าง ๆ เช่น แปลงของนายวินัย สมาชิกที่ปลูกจำปาดะ พันธุ์ขวัญสตูล กับพันธุ์วังทอง สามารถจำหน่ายสร้างรายได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ สหกรณ์การเกษตรท่าแพ จำกัด มีการส่งเสริมการปลูกสละ มีเครือข่ายจากสวนสละลุงถัน ได้เข้ามาให้คำแนะนำเรื่องการปลูก การดูแล เมื่อสละให้ผลผลิตจะทำการตลาดร่วมกัน ส่งจำหน่ายไปยังต่างประเทศ รวมถึงทำเกษตรเชิงท่องเที่ยวที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาสู่ สวนของพี่น้องเกษตรกร มากิน ชิมผลไม้ที่รสชาติดี จะทำให้เกิดการตลาดอย่างต่อเนื่องในอนาคต นอกจากนี้แล้ว เกษตรกรในยุคปัจจุบันมีลูกหลานเกษตรกรที่ไปทำงานอยู่ในภาคอุตสาหกรรม เมื่อกลับมาอยู่บ้าน จะนำความรู้ต่าง ๆ มาทำเรื่องของการขายออนไลน์ การสร้างสตอรี่ต่าง ๆ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักผลไม้ของประเทศไทย หรือพืชผลทางการเกษตรของประเทศไทยที่มีรสชาติดีจากสภาพพื้นดินจากสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมจะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเชิงการเกษตรเกิดการสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นให้กับชุมชน ในหลาย ๆ ด้านด้วย” นายวิศิษฐ์ กล่าว

ทั้งนี้ สหกรณ์การเกษตรท่าแพ จำกัด ได้ดำเนินมาตรการแก้ปัญหาหนี้ สหกรณ์ ฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเดิม ได้แก่ สวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน โดยสหกรณ์สนับสนุนปัจจัย การผลิตปุ๋ยผสม สนับสนุนการเลี้ยงโคแม่พันธุ์ผลิตลูกจำหน่าย ดำเนินโครงการเกษตรวิถีใหม่ ส่งเสริมการปลูกสละ 38 ไร่ โดยสหกรณ์สนับสนุนเงินให้กู้ รายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี ผ่อนชำระ 5 ปี ปลอดชำระต้นเงิน 3 ปี และเริ่มชำระต้นเงินปีที่ 4 รวมทั้งยังมีการส่งเสริมการตลาดเชื่อมโยงเครือข่ายร่วมกันส่งไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศด้วย

ด้านสหกรณ์การเกษตรละงู จำกัด ได้ดำเนินงานโดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกและส่งเสริมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรด้วยระบบสหกรณ์ ปีงบประมาณ 2566 เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกมีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ได้ด้วยตนเองต่อไป