กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย (4 กรกฎาคม) ชวนคนไทยปลูกต้นไม้ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี
วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ในวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ปี 2562” ณ โถงอาคาร 3 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เจ้าฟ้านักพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อม ที่พระราชทานพระอนุญาตกำหนดให้วันที่ 4 กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติ เป็น “วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย” พระองค์เป็นผู้นำที่เข้มแข็งและมีพระปณิธานอันแน่วแน่ มั่นคง ต่อการดำเนินงานด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนและเป็นแบบอย่าง สร้างแรงบันดาลใจในการขับเคลื่อนงานอนามัยสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทย ประจำปี 2562 นี้ รณรงค์ภายใต้แนวคิด “อากาศดี สุขภาพดี ด้วยพลังภาคี ทุกภาคส่วน (Better Air Quality for Better Health)” เนื่องจากมลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่สำคัญ โดยกว่าร้อยละ 90 ของประชากรทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณมลพิษทางอากาศสูงกว่าค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก และทุกปีจะมีประชากรกว่า 7 ล้านคนเสียชีวิตจากการรับสัมผัสมลพิษทางอากาศ ซึ่งประเทศไทยมีปัญหามลพิษทางอากาศเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานหลักด้านการดูแลส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเห็นความสำคัญในการสร้างความตระหนักต่อปัญหามลพิษทางอากาศและสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชน ในการดูแลป้องกันตนเองจากผลกระทบทางสุขภาพ รวมทั้งมีนโยบายของการเป็นองค์กรแบบอย่างที่มีการจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดีให้กับเจ้าหน้าที่และบุคลากร
“กิจกรรมรณรงค์วันอนามัยสิ่งแวดล้อมไทยในครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้หน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขเห็นความสำคัญของการดูแลจัดการสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวและทำได้ง่ายๆ เช่น การช่วยกันปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและอากาศบริสุทธิ์ และเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดักจับสารพิษในอากาศ สามารถช่วยป้องกันฝุ่นละอองได้ เพราะส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ โดยเฉพาะใบสามารถช่วยดักฝุ่นได้ดี ซึ่งไม่เพียงแต่ต้นไม้ภายนอกอาคารเท่านั้นที่ช่วยดักฝุ่น เช่น ไทรเกาหลี โมก การเวก สนฉัตร เป็นต้น สำหรับไม้ประดับภายในอาคาร เช่น พลูด่าง ลิ้นมังกร ก็ช่วยดักสารพิษได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการปลูกต้นไม้ 1 ต้น ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 9-15 กิโลกรัมต่อปี ดักฝุ่นและมลพิษทางอากาศได้ 1.4 กิโลกรัมต่อปี ช่วยฟอกอากาศ ลดการเกิดภูมิแพ้และ หอบหืดได้ อีกทั้งยังช่วยทำให้สดชื่น ผ่อนคลาย ลดความเครียด รวมทั้งลดอุณหภูมิรอบบ้านได้ 2-4 องศาเซลเซียส เพราะช่วยให้ร่มเงาและป้องกันรังสี UV ได้เป็นอย่างดี” รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
***
ศูนย์สื่อสารสาธารณะ