อธิบดีบุปผา ส่งรองพิเชษฐ์ ติดตามผลเทรนทักษะผู้มีบัตรคนจน กลุ่มทอผ้า กาฬสินธุ์

นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะแรงงานทุกกลุ่มซึ่งมุ่งเน้นผู้ที่มีรายได้น้อย ให้เข้าถึงแหล่งความรู้เพื่อเพิ่มโอกาสและความสามารถในการประกอบอาชีพ สามารถดูแลตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้ จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเร่งดำเนินการพัฒนาทักษะแรงงานอย่างเร่งด่วน โดยกรมมีโครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุค 4.0 ฝึกอบรมให้แก่แรงงานกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งดำเนินการโดยสถาบัน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้มอบหมายให้รองอธิบดีติดตามผลสัมฤทธิ์ผู้ผ่านการฝึกอบรมดังกล่าว

นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า อธิบดีได้มอบหมายให้ผมลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจเยี่ยม พบปะ พูดคุย ให้กำลังใจ และติดตามผลการฝึกอบรมหลักสูตร การใช้สมาร์ตโฟนเพื่อธุรกิจออนไลน์ กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านดงน้อย ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จัดฝึกอบรมโดยสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาฬสินธุ์ จากการพูดคุย สอบถามปัญหาพบว่า ผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น แอปพลิเคชันไลน์ อินสตาร์แกรม และเฟสบุ๊ก มีชาวต่างชาติสนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้าพื้นเมืองเป็นจำนวนมากซึ่งขณะนี้กำลังเร่งการผลิตเพื่อให้ทันจำหน่าย ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังได้ตรวจติดตามการติดตั้งโรงเรือนอัจฉริยะ ภายใต้โครงการศูนย์เรียนรู้โรงเรือนเกษตรแม่นยำที่แกเป๊ะ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งโรงเรือนดังกล่าวก็ใช้สมาร์ตโฟนในการควบคุมระบบการทำงานอีกด้วยซึ่งพร้อมใช้ฝึกอบรมให้แก่แรงงานตามเป้าหมายต่อไป สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรม สอบถามได้ที่สถาบัน และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทุกแห่งทั่วประเทศ หรือโทรสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 รองพิเชษฐ์กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนางดอกแก้ว เปี่ยมรัฐหิรัญ อายุ 58 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านดงน้อย เล่าว่า ในช่วงโควิดระบาดทำให้กลุ่มประสบปัญหาอย่างมากไม่สามารถขายสินค้าได้ จึงได้เข้าปรึกษากับทางสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานกาฬสินธุ์ ทางสำนักงานได้จัดฝึกอบรมให้กับกลุ่มในหลักสูตร การใช้สมาร์ตโฟนเพื่อธุรกิจ ได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ ในการใช้ระบบออนไลน์ ในการขายสินค้า ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายได้จากเดิมที่ขายได้ 100 ชิ้น มูลค่าประมาณ 20,000 บาท แต่พอเข้าอบรมก็สามารถขายสินค้าได้ 300 – 400 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าถึง 30,000 – 50,000 บาท จึงขอขอบคุณทางสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน กาฬสินธุ์ เป็นอย่างมากที่ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรนี้ นอกจากนี้ยังได้รับมอบอุปกรณ์ เช่น สมาร์ตโฟน ไฟสำหรับใช้ไลฟ์ขายของพร้อมไมค์ ซึ่งช่วยต่อยอดการขายได้เป็นอย่างดี และเพิ่มความสะดวกสบายในการประกอบอาชีพมาก