กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมแพทย์ชุดแรกจำนวน 12 คน ดูแลสุขภาพผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ดูแลสุขภาพผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2562 จำนวนกว่า 8,000 คน ณ ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดระบบบริการสุขภาพผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2550 ในปีนี้ มีผู้แสวงบุญชาวไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ จำนวน 8,000 กว่าคน ก่อนเดินทางทุกคนได้รับการอบรมให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ ฉีดวัคซีนป้องกันโรค คัดกรองความเสี่ยง และอบรมพัฒนาศักยภาพผู้นำกลุ่ม (แซะห์) เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขฮัจย์ จำนวน 357 คน ช่วยให้คำแนะนำด้านสุขภาพ การส่งผู้ป่วยรักษาต่อ และร่วมจัดบริการภาคสนามกับทีมแพทย์
สำหรับระหว่างประกอบพิธีฮัจย์ที่ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ได้ให้สำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย หรือชื่อเดิมคือหน่วยพยาบาลไทย จัดโรงพยาบาลชั่วคราว ให้บริการตรวจรักษา ทำหัตถการและฉุกเฉิน ผู้ป่วยใน และส่งต่อรักษา จัดบริการเชิงรุก ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคถึงที่พักของผู้ประกอบพิธีฮัจย์ และส่งทีมแพทย์ 3 ทีม จำนวน 35 คน ประกอบด้วย แพทย์ 7 คน เภสัชกร 3 คน พยาบาลวิชาชีพ 20 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5 คน ดูแลสุขภาพชาวไทยมุสลิมที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย รวมทั้งจัดระบบคัดกรอง ติดตาม เฝ้าระวัง ป้องกันโรค และสร้างเครือข่ายในกลุ่มผู้เดินทางกลับจากพิธีฮัจย์
นายแพทย์สุขุมกล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้นายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลไม้แก่น จังหวัดปัตตานี ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย นำทีมแพทย์ชุดแรก จำนวน 12 คน เดินทางไปประเทศซาอุดิอาระเบีย ในคืนนี้ (2 กรกฎาคม 2562) มีนายแพทย์ลุฎฟี หะยีหมัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ทีมที่ 2 จะเดินทางในวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 และทีมที่ 3 เดินทางในวันที่ 22 กรกฎาคม 2562 ให้การดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญจนเสร็จสิ้นภารกิจ
ทั้งนี้ จุดรักษาพยาบาล 3 แห่ง คือ 1.นครเมกกะห์ ณ อาคารอัลมัรวะห์รีฮาบ 2 เมืองมักกะห์ จำนวน 20 เตียง เปิดบริการฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง 2.นครมาดีนะห์ จัดบริการ ณ โรงแรมมานาซิส อัลฟาฆอมะห์ บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยนอก และประสานงานส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย 3.ภาคสนาม (มีนา อารอฟะห์ และมุซดาลิฟะห์) ทีมแพทย์ร่วมกับเครือข่าย อสม.ฮัจย์ จำนวน 357 คน เยี่ยมผู้มีปัญหาสุขภาพกลุ่มเสี่ยง และผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์ที่มีประวัติการนอนรักษาในสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย และโรงพยาบาลในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ตลอดจนที่ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย