นางวิไลวรรณ ดาราพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาทักษะการเขียนข่าวเล่างาน กศน. เพื่อการประชาสัมพันธ์ในยุคดิจิทัล” ณ โรงแรมไพน์เฮิร์สท โฮเทล อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยมีข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา จากสำนักงาน กศน.จังหวัด และสถานศึกษา กศน.อำเภอ 16 อำเภอ ที่รับผิดชอบภารกิจสำคัญทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศึกษาตามอัธยาศัย งานภาคีเครือข่าย และงานประชาสัมพันธ์ รวม 94 คน มี นายธนพัชร์ ขุนเทพ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการผลิตสื่อเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา สำนักงาน กศน. เป็นหัวหน้าทีมวิทยากรในการให้ความรู้แลกเปลี่ยนประสบการณืในด้านการเขียนเพื่อการประชาสัมพันธ์
นางวิไลวรรณ ดาราพงศ์ เปิดเผยว่า สำนักงาน กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตระหนักถึงความสำคัญของงานประชาสัมพันธ์ว่าเป็นงานระดับนโยบาย เพราะมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินกิจการของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจเอกชน และองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่ต่างนำกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายไปเป็นเครืองมือในการขับเคลื่อนองค์กร เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าบริการ สร้างความน่าเชื่อถือ นำไปสู่การตัดสินใจเลือกใช้บริการต่างๆ รวมถึงการสร้างและประสานความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานกับกลุ่มประชาชน ป้องกันแก้ไขความเข้าใจผิด ขจัดและลดความขัดแย้งต่างๆ รวมทั้งใช้การประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนนโยบายและการดำเนินงานขององค์กร เสริมสร้างรักษาชื่อเสียง ความเชื่อ ศรัทธา และความร่วมมือสนับสนุนจากประชาชนที่พึงมีต่อหน่วยงาน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ในขณะเดียวกันความจำเป็นในการเสริมสมรรถนะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแก่บุคลากร ก็เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ในการจัดการศึกษา ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพและหลากหลาย การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาทักษะการเขียนข่าวเล่างาน กศน. เพื่อการประชาสัมพันธ์ในยุคดิจิทัล” ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ส่งเสริมให้บุคลากรในสังกัดมีความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนมีทักษะในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารงานบริการต่างๆ ของ กศน.ให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจได้อย่างถูกต้องชัดเจน และด้วยคุณลักษณะการทำงานของบุคลากรในสังกัดสำนักงาน กศน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว ก็จะสามารถนำความรู้และทักษะจากการอบรมครั้งนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการถ่ายทอดเนื้องานตามบริบทของตนเองเล่าสู่สาธารณะ ผ่านช่องทางการสื่อสารที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันให้โดนใจผู้รับบริการได้
นางวิไลวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ณ วันนี้ ซึ่งเป็นห้วงของการเปลี่ยนผ่าน แต่ไม่ว่าจะเป็น กศน.เดิม หรือ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ในวันข้างหน้า แต่ด้วยบริบทและเนื้องานอาจไม่ต่างจากเดิมมากนัก หัวใจของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ก็ยังคงมุ่งให้เราให้บริการการเรียนรู้แก่ประชาชน ตั้งแต่เกิดจนตาย เมื่ององค์กรมั่นคงขึ้น กิจกรรมเราจะยิ่งใหญ่ขึ้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมความพร้อม ปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีการทำงานในนำภารกิจของเราไปสู่ประชาชน ด้วยสินค้าบริการในหลายรูปแบบ เราจะบริหารจัดการข้อมูลอย่างไร ให้เข้าถึงชาวบ้าน สื่อสารอย่างไรให้พี่น้องประชาชนรับรู้ถึงสินค้าและบริการ และมาใช้บริการ เบื้องต้นข้อมูลและกิจกรรมที่ทำอยู่ ต้องมีความชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้ว ก็จะสามารถเผยแพร่ถ่ายทอดต่อไปยังพี่น้องประชาชนได้ ในบทบาทของผู้จัดและส่งเสริมการเรียนรู้ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ในองค์กร โดยผู้ทำหน้าที่นี้ต้องไม่แข็งกระด้าง มีจิตสาธารณะ ทำงานตามหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายที่สื่อสารในแต่ละช่วงวัย วิเคราะห์เนื้อหาและช่องทางในการสื่อสาร ว่าเราต้องใช้ช่องทางไหนกับกลุ่มเป้าหมายใด ความคาดหวังที่อยากได้หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกปฏิบัติในครั้งนี้ คือการที่บุคลากรในสังกัด ได้พัฒนาตนเองเป็นผู้นำทางการศึกษาในระดับพื้นที่ในที่สุด