รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ร่วมขับเคลื่อนประเด็นสำคัญให้การเจรจาอาร์เซ็ปคืบหน้าโดยเร็ว ย้ำจุดยืนให้สรุปผลภายในปีนี้ เชื่อจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าระหว่างประเทศ ของสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ และสามารถขยายการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและอาร์เซ็ป ท่ามกลางวิกฤตสงครามการค้า
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนได้ประชุมนัดพิเศษเรื่องการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เมื่อวันที่ 21-22 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ กรุงเทพฯ โดยอาเซียนได้ร่วมกันเสนอหลายเรื่องสำคัญที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้การเจรจาอาร์เซ็ปคืบหน้าได้เร็วมากขึ้น ซึ่งผู้นำอาเซียนได้ประกาศในการประชุมสุดยอดผู้นำ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา แสดงความมุ่งมั่นให้การเจรจาอาร์เซ็ปหาข้อสรุปให้ได้ในปีนี้
ทั้งนี้ ไทยได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ครั้งที่ 26 และการประชุมคณะทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2562 ณ เมืองเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย โดยมีเป้าหมายผลักดันข้อบทที่ยังติดขัดและมีแนวโน้มที่จะสำเร็จ ให้คืบหน้าหาข้อสรุปได้โดยเร็ว สำหรับประเด็นที่สมาชิกอาร์เซ็ปยังไม่สามารถตกลงกันได้ ในการประชุมคณะกรรมการเจรจาอาร์เซ็ป ณ เมืองเมลเบิร์น และจำเป็นต้องมีการตัดสินใจระดับการเมือง สามารถหยิบยกให้ที่ประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป ในเดือนสิงหาคม 2562 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อไป
นางสาวชุติมา ย้ำว่า ไทยในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ ให้ความสำคัญสูงสุดกับการที่สมาชิกอาร์เซ็ปทั้ง 16 ประเทศ จะร่วมกันสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปี 2562 โดยตั้งเป้าประกาศสรุปผลการเจรจาในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ กรุงเทพฯ ซึ่งความตกลงอาร์เซ็ปจะเป็นความตกลงการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าระหว่างประเทศของสมาชิกทั้ง 16 ประเทศ ท่ามกลางวิกฤตสงครามการค้า รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับภูมิภาคอาเซียนและอาร์เซ็ป นำไปสู่การขยายตัวทางการค้าและการลงทุน
ทั้งนี้ สมาชิกอาร์เซ็ปรวม 16 ประเทศ มีประชากรกว่า 3,560 ล้านคน หรือเกือบครึ่งของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 11.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 30 ของมูลค่าการค้าโลก โดยในปี 2561 ไทยกับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ป มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่ประมาณ 2.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 58.7 ของการค้ารวมทั้งหมดของไทย เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 12.6 สำหรับประเทศสมาชิกอาร์เซ็ปที่ไทยส่งออกมากที่สุด ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ตามลำดับ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ยาง ยางพารา เครื่องจักรกล เหล็ก
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์