ชุดเฉพาะกิจสารวัตรกรมปศุสัตว์ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร บุกจับโรงฆ่าสัตว์เถื่อน จังหวัดขอนแก่น ยึดซากโคที่กำลังชำแหละ มีความผิดตาม พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 เสี่ยงแพร่เชื้อโรค และไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสัตวแพทย์ศีลธรรม วราอัศวปติ ปศุสัตว์เขต 4 มีประชาชนร้องเรียนและแจ้งเบาะแสการลักลอบฆ่าชำแหละสัตว์เพื่อจำหน่าย และสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ณ บ้านเลขที่ 84/2 หมู่ 3 ตำบลแดงใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จึงได้จัดทีมเข้าตรวจสอบ ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์เขต 4 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ด่านกักกันสัตว์ขอนแก่น และด่านกักกันสัตว์ในกลุ่มที่ 4 พร้อมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจาก มณฑลทหารบกที่ 23 จังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจสอบตามข้อร้องเรียน เพื่อบังคับใช้กฎหมาย เมื่อกลางดึกของวันพุธที่ 26 มิถุนายน 2562
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวต่อไปว่า ผลการตรวจสอบพบการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 กำลังฆ่าชำแหละโค 1 ตัว ในโรงฆ่าสัตว์ที่ไม่ได้รับใบอนุญาต กรมปศุสัตว์จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมควบคุมตัวผู้กระทำความผิด ของกลาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการฆ่าสัตว์ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 23,500 บาท รวมถึงได้นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อดำเนินคดี ดังนี้ ข้อหาแรก คือ ประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15 แห่ง พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาที่สอง ฆ่าสัตว์โดยไม่แจ้งการฆ่าต่อพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 31 แห่ง พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีโทษปรับตามรายตัว โค ตัวละไม่เกิน 5 หมื่นบาท
การดำเนินการเข้าตรวจค้นจับกุมการประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยผิดกฎหมายครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการปราบปรามโรงฆ่าสัตว์เถื่อนและการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นหลัก เนื่องจากสัตว์ที่นำมาฆ่านั้น จะไม่ทราบแหล่งที่มาของสัตว์ ไม่มีการตรวจสอบใดๆ ไม่ได้ผ่านการตรวจโรคมาก่อน และผ่านกระบวนการฆ่าสัตว์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้มีความเสี่ยงที่เนื้อสัตว์ถูกชำแหละแล้วไปวางจำหน่ายให้กับผู้บริโภคปนเปื้อนเชื้อโรคสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดที่สำคัญ หรืออันตรายจากสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง ฮอร์โมน และยาปฏิชีวนะ เป็นต้น ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคและอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนของกลางที่เป็นซากสัตว์ทางกรมปศุสัตว์จะทำลายโดยการฝังหรือเผาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการปราบปรามการประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยผิดกฎหมายทั่วประเทศ เพื่อยกระดับให้โรงฆ่าสัตว์มีมาตรฐานเดียวกัน สร้างความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค หากพบเห็นการกระทำผิดโปรดแจ้งเบาะแสผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) “DLD 4.0” ที่สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Google play เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการ ตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที
ข้อมูล/ข่าว : สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 กรมปศุสัตว์