DITP วางกลยุทธ์ สร้างเครือข่าย ขยายการลงทุน หนุนเจาะเมืองรอง พร้อมนำทัพนักธุรกิจไทยเจาะตลาดอาเซียน

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า ปี 2561 ตลาดอาเซียนมีมูลค่าการส่งออกกว่า 68,400 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าในปี 2562 ตลาดอาเซียนจะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 5.2 มีมูลค่าการส่งออกประมาณ 72,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในกลุ่มอาเซียนขยายตัวดีมีเสถียรภาพ หลายประเทศมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น มีการขยายตัวของโมเดิร์น เทรด (Modern Trade)  และตลาดอี-คอมเมิร์ช (E-commerce) อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งภาพลักษณ์ของสินค้าและบริการของไทยดีในสายตาของผู้บริโภคในกลุ่มตลาดอาเซียน จึงเป็นโอกาสของไทยในการเจาะตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้วางกลยุทธ์การผลักดันการส่งออกตลาดอาเซียนในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 เป็น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างเครือข่าย ขยายการลงทุน และหนุนเจาะตลาดเมืองรอง สำหรับกลยุทธ์การสร้างเครือข่าย เน้นการสร้างเครือข่ายกับกลุ่มธุรกิจจากประเทศจีน ที่ย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียน เพื่อสนับสนุนสินค้าไทยเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของสินค้าและบริการต่างๆ (Value Chain) เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและสมาคมการค้าของประเทศเพื่อนบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกการค้าชายแดนยิ่งขึ้น กลยุทธ์การขยายการลงทุน เช่น การส่งเสริมการลงทุนของธุรกิจไทยในอาเซียน โดยเฉพาะ ตลาด CLMV เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ในการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป การสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่น Local to Global ผ่านการพัฒนาศักยภาพทั้งสินค้าและผู้ประกอบการ และนำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในกลุ่มประเทศอาเซียน การส่งเสริมการค้าชายแดนโดยการเพิ่มกิจกรรมให้นักธุรกิจตามแนวชายแดนได้พบปะเจรจาธุรกิจกันมากขึ้น  และการส่งเสริมการส่งออกสินค้าใหม่ๆ เช่น ซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น สำหรับการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม สปา ภาพยนตร์ เกม แอนิเมชันต่างๆ เป็นต้น  สำหรับกลยุทธ์การบุกเจาะตลาดเมืองรอง เช่น เมืองดาเวา ของฟิลิปปินส์ เสียมราฐของกัมพูชา สุราบายา ของอินโดนีเซีย ซาบาห์ ซาราวักของมาเลเซีย มัณฑะเลย์ของเมียนมา ไฮฟองและเกิ่นเธอของเวียดนาม และแขวงอุดมไชยของลาว พร้อมรักษาและส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าและบริการไทยอย่างต่อเนื่องผ่านการประชาสัมพันธ์ทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆ

สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจในระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2562 อาทิ การนำนักธุรกิจสินค้าอุตสาหกรรมไทยสร้างเครือข่ายและเจรจาการค้ากับนักธุรกิจฟิลิปปินส์ ในเมืองดาเวา ระหว่างวันที่ 7-10 กรกฎาคม 2562 เพื่อส่งเสริมและขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทยพบปะและสร้างเครือข่ายกับนักธุรกิจ/ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไทยในฟิลิปปินส์และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้ซื้อในฟิลิปปินส์ โดยเมืองดาเวาซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีดูเตอร์ เต้ นั้น ยังได้รับการขนานนามว่าเป็นราชาแห่งเมืองใต้ เนื่องด้วยตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศและอยู่ในเขตมินดาเนาช่วยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจจำนวนมากขยายเข้ามาได้มาก ส่งผลให้ภาคธุรกิจเติบโตต่อเนื่องและสูงขึ้นทุกปีมากถึงร้อยละ 8.6 นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีในการขยายการค้าการลงทุนโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมของไทยไปยังเมืองดังกล่าว นอกจากภาคธุรกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องแล้วเมืองดาเวายังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคใต้ที่สำคัญอีกเมืองหนึ่งเช่นกัน

ในส่วนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ  เช่น การจัดกิจกรรมคณะผู้แทนการค้าธุรกิจอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน 2562 คณะผู้แทนการค้าธุรกิจบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ ระหว่างวันที่ 24 -26 กรกฎาคม 2562 และคณะผู้แทนการค้าธุรกิจภาพยนตร์ไทย ระหว่างวันที่ 28 -30 สิงหาคม 2562 เป็นต้น

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะนำผู้ประกอบการไทยในหลายภาคธุรกิจ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม การเกษตร วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์ โลจิสติกส์ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เป็นต้น เยือนเมืองโกตาคินาบาลู รัฐซาบาห์และเมืองคูชิง รัฐซาราวัก ระหว่างวันที่ 20 – 24 สิงหาคม 2562 เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายการส่งออกสู่ตลาดมาเลเซียฝั่งตะวันออก สร้างพันธมิตรและเครือข่ายการค้าและการลงทุนกับนักธุรกิจมาเลเซีย รวมถึงสามารถวางแผนการตลาดให้เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะของตลาด เพื่อให้การนำเข้าสินค้าไทยสู่ตลาดดังกล่าวและขยายการดำเนินธุรกิจของไทยสู่เมืองรองที่มีศักยภาพของมาเลเซีย ทั้งนี้เมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการให้เข้าใจถึงการวางแผนการเข้าไปทำการค้าการลงทุนในมาเลเซียโดยเฉพาะในส่วนของรัฐซาบาห์และรัฐซาราวักและทราบถึงแนวโน้มของสินค้าและบริการที่ชาวมาเลเซียให้ความสนใจ รวมไปถึงการเตรียมความพร้อมของบริษัทเพื่อเจรจาการค้ากับนักธุรกิจมาเลเซีย

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดอาเซียนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงมุ่งหน้าส่งเสริมผู้ประกอบการไทยให้ขยายการค้าสู่เมืองรองต่าง ๆ ของกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดสินค้าและบริการไทยให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในกลุ่มประเทศอาเซียนเพิ่มขึ้นต่อไป

ผู้สนใจในการเจาะตลาดอาเซียนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาตลาดและธุรกิจไทยในต่างประเทศ 1 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร 02 507 8210 เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือ สายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169

************************************************************

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ