นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองคำขอจัดตั้งวัดคาทอลิก ครั้งที่ 2/2566 (15 มี.ค. 66) ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารับรองวัดคาทอลิกจำนวน 40 วัด เพื่อให้เป็นวัดคาทอลิก ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยแนวทางพิจารณาในการจัดตั้งวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิก พ.ศ. 2564
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยไม่เคยมีการประกาศรับรองวัดคาทอลิกมายาวนานถึง 93 ปีแล้ว นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 เนื่องจากมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหน่วยงานราชการขึ้นหลายครั้ง ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่าอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาจัดตั้งหรือรับรองวัดคาทอลิกเป็นของหน่วยงานใด ประกอบกับพระราชบัญญัติว่าด้วยลักษณฐานะของวัดบาทหลวงโรมันคาทอลิกในกรุงสยามตามกฎหมาย ไม่ได้กำหนดขั้นตอนหรือแนวทางในการขอจัดตั้งหรือขอให้รับรองวัดคาทอลิกไว้ ซึ่งต่อมาจำนวนคริสต์ศาสนิกชนได้เพิ่มขึ้นครอบคลุมทุกจังหวัดในประเทศไทย จึงมีความจำเป็นต้องจัดตั้งวัดคาทอลิกเพิ่มขึ้นเพื่อให้คริสต์ศาสนิกชนใช้ในการประกอบศาสนกิจ การรับรองวัดคาทอลิกครั้งนี้
ถือเป็นแนวทางส่งเสริมและอุปถัมภ์ศาสนาในประเทศไทยให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงช่วยเสริมบทบาทของกระทรวงวัฒนธรรมในการสนับสนุนให้ศาสนิกชนมีศาสนสถานในการประกอบศาสนกิจ และได้รับการศึกษาและปลูกฝังคุณธรรมที่ถูกต้องตามหลักศาสนา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนวัดที่สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกประมาณการจะเสนอให้รับรองทั้งหมด 388 วัด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบรับรองวัดคาทอลิกตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอแล้ว 76 วัด และวัดคาทอลิกที่คณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบ
ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณารับรองในการประชุมครั้งที่ผ่านมาและครั้งนี้ 79 วัด จึงคงเหลือจำนวนวัดคาทอลิกที่ต้องดำเนินการเพื่อให้มีการรับรองอีก 233 วัด โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ