ที่บริเวณ ริมถนน เส้นวัดถ้ำบ่อทอง ต.ช่องสาริกา อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบต้นกัลปพฤกษ์ ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่งสวยงามเต็มต้นริม 2 ฝั่ง ยาวร่วม 2 กิโลเมตร อวดโฉมให้ผู้ใช้รถ ใช้ถนนที่ขับผ่านและนักท่องเที่ยวจากใกล้ – ไกล ได้ ลงไปเก็บภาพเป็นที่ระลึก โดยจากการสอบถามชาวบ้านบริเวรนั้นได้ให้ข้อมูลว่า ต้นกัลปพฤกษ์ จะออกดอกทุกปี ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงช่วง ปลายเดือนมีนาคม ดอกก็จะร่วงโรยไป
ซึ่ง ณ ขณะนี้ดอกจะเริ่มออกเป็นสีขาวแล้ว ซึ่งถ้าจะมาเที่ยวชมความสวยงามของถนนเส้นนี้ ดอกจะเป็นสีชมพูสวยที่สุดจะอยู่ในช่วงต้นเดือนมีนาคม จึงขอเชิญชวนมาชมความงดงามก่อนดอกร่วงโรย สำหรับช่วงเวลาที่จะถ่ายรูปสวยที่สุดคือช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.00 -09.00 น. และในช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
ต้นกัลปพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassia bakeriana Craib จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ประมาณ 5-15 เมตร มีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 12 เมตร เรือนยอดแผ่กว้าง แต่ไม่หนาแน่นทึบ แตกกิ่งต่ำและทอดกิ่งยาวขึ้นสู่ด้านบน สามารถขึ้นได้ในพื้นที่ที่ดินไม่ค่อยสมบูรณ์ ชอบความชื้นปานกลาง แสงแดดแบบเต็มวัน พรรณไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศพม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนาม ในประเทศไทย
สำหรับดอกกัลปพฤกษ์ ออกดอกเป็นช่อกระจะตามกิ่งพร้อมกับแตกใบอ่อน ช่อดอกไม่แตกแขนง ยาวได้ประมาณ 5-10 เซนติเมตร มีขนสีเหลืองขึ้นปกคลุม ช่อดอกจะออกแน่นเป็นกลุ่มตลอดกิ่ง เมื่อเริ่มบานดอกจะเป็นสีชมพู แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อ ๆ จนถึงสีขาวเมื่อใกล้ร่วงโรย
ประโยชน์ของกัลปพฤกษ์ ในสมัยก่อนคนแก่จะใช้เนื้อในฝักกินกับหมาก ต้นกัลปพฤกษ์จัดเป็นไม้มงคลที่มีรูปทรงสวยงาม ให้ดอกสวย ออกดอกดกเต็มต้น มีสีชมพูอ่อนสดใสดูงดงามเหมือนดอกเชอร์รี่ อีกทั้งดอกกัลปพฤกษ์ก็มีทั้งสีชมพูและสีขาว จึงรวบรวบความงดงามของทั้งดอกเชอร์รี่และดอกแอปเปิ้ลไว้ในคราวเดียวกัน ในปัจจุบันนิยมจึงนำมาปลูกเป็นไม้ประดับกันทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่จะปลูกไว้ประดับอาคารบ้านเรือน ปลูกในสวนสาธารณะ และริมถนนทั่วไป และสามารถทนดินและอากาศแห้งได้เป็นอย่างดีสำหรับความเชื่อของคนไทยในอดีตเชื่อกันว่า ต้นกัลปพฤกษ์มีอยู่ในแดนสวรรค์ เปรียบเหมือนแก้วสารพัดนึก หากปรารถนาสิ่งใด จะไปขอเอาจากต้นไม้นี้ อีกทั้งต้นกัลปพฤกษ์ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ มีโชคมีชัย อีกด้วย