รมว.สุชาติ พบปะลูกจ้างสหภาพแรงงานอีทีเอ หนุนนายจ้าง – ลูกจ้างเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ นำพาเศรษฐกิจประเทศ

วันที่ 12 มีนาคม 2566 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 27/2566 ของสหภาพแรงงานอีทีเอ โดยมี นางสาวสกุลรัตน์ ยศเรืองศักดิ์ ประธานสหภาพแรงงานอีทีเอ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ และคณะกรรมการบริหาร และสมาชิกสหภาพแรงงานอีทีเอ ร่วมให้การต้อนรับ ณ ร้านอาหารบ้านระหัดน้ำ ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

นายสุชาติ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสําคัญกับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องผู้ใช้แรงงานเพราะผู้ใช้แรงงาน ซึ่งถือเป็นฟันเฟืองที่สําคัญในการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจของประเทศมีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคง ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมากระทรวงแรงงานได้รับการชื่นชมจากหน่วยงานระดับโลก เช่น WHO (องค์การอนามัยโลก) ที่ชื่นชมกระทรวงแรงงานในฐานะหน่วยงานที่มีความสำคัญในการนำพาประเทศฝ่าวิกฤต รวมถึง IMF ที่ได้เผยแพร่รายงานอัตราการว่างงานของประเทศไทยที่ต่ำที่สุดเพียง 1% ผลจากการแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทั้งนี้ ด้วยความเป็นผู้นำของ ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มองเห็นความสำคัญของภาคธุรกิจและภาคแรงงาน จึงให้การสนับสนุนผ่านมาตรการต่าง ๆ ของกระทรวงแรงงาน จนนำพาให้วิกฤตหลายอย่างดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมาก

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน หวังว่าการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหภาพแรงงานอีทีเอในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประชุมของสมาชิกและเพื่อนำเสนอผลความสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมาของคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงาน และแผนการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของสมาชิกในภายหน้าตามวัตถุประสงค์แล้ว จะยังเป็นกิจกรรมที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้สมาชิกและผู้ใช้แรงงาน ได้ดำเนินกิจการขององค์กรอยู่บนพื้นฐานความสัมพันธ์อันดี มีเหตุมีผล สร้างระบบทวิภาคีให้เกิดความเข้มแข็ง โดยคำนึงถึงองค์กรและความเป็นหุ้นส่วนสำคัญทางธุรกิจกับนายจ้าง ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อนายจ้าง รวมถึงการประสานประโยชน์ให้เกิดการยอมรับเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญ บนพื้นฐานระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ซึ่งที่ผ่านมา สหภาพแรงงานอี ที เอ ได้บริหารจัดการองค์กรเป็นระยะเวลา 27 ปี ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงบทบาทของสหภาพแรงงานฯ ที่เข้มแข็ง สามารถบริหารงานได้ประสบความสำเร็จมาเป็นระยะเวลายาวนาน อันเกิดจากความสามัคคีปรองดองของสมาชิกนำมาซึ่งความเข้มแข็ง และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่องค์กรแรงงานอื่นๆ ได้อย่างน่าชื่นชม

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือพี่น้องแรงงานและสถานประกอบการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สำคัญ ๆ เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน  มาตรการให้ความช่วยเหลือด้านโควิดของกระทรวงแรงงานภาพรวม อาทิเช่น ตรวจโควิดแบบประจำจุดและตรวจเชิงรุกในโรงงาน โครงการแฟคทอรี่ แซนบ๊อก ลดเงินสมทบให้แก่ผู้ประกันตน เยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ในพื้นที่ 29 จังหวัด นายจ้าง เยียวยาผู้ประกันตน มาตรา 39 มาตรา 40 เยียวยาผู้ประกันตนในกิจการสถานบันเทิงฯ เยียวยาจากการปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง ฉีดวัคซีนให้แก่คนงาน ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันให้พี่น้องแรงงานสามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม โดยมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่ 354 – 328 บาท ซึ่งได้ประกาศใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ในด้านส่งเสริมการมีงานทำ ยังได้มีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในรอบ 32 ปี กับประเทศซาอุดีอาระเบียการขยายตลาดแรงงานในต่างประเทศ เชิงรุก ด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องผู้ใช้แรงงาน โดยเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจาก 600 บาท เป็น 800 บาท ประกันเงินบำนาญชราภาพขั้นต่ำ 5 ปี โครงการ Re-finance บ้าน ดอกเบี้ยต่ำ โครงตรวจสุขภาพเชิงรุกเพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงสิทธิการรักษาและภารกิจที่กระทรวงแรงงานกำลังเร่งดำเนินการ อาทิ เร่งผลักดันแก้ไขกฎหมายประกันสังคม 3 ขอ ขอเลือก ขอคืน ขอกู้ ผลักดันร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ. …. เงินบำนาญ 10,000 บาท ต่อเดือน บ้านแรงงาน ธนาคารแรงงาน สถาบันการแพทย์แรงงาน เพื่อพี่น้องผู้ใช้แรงงาน และบุตรหลานแรงงานให้ได้ทุนการศึกษาในสาขาการแพทย์ กองทุนแรงงานนอกระบบ 30,000 ล้านบาท เพื่อวางรากฐานความมั่นคงให้แก่พี่น้องแรงงานในอนาคตอีกด้วย

“ในวันนี้เป็นโอกาสดีที่ผมได้มาพบปะกับพี่น้องชาวสหภาพแรงงานอีทีเอทุกท่าน ผมขอขอบคุณสหภาพแรงงานอีทีเอที่ได้รวมตัวกันจัดตั้งและร่วมกันบริหารจัดการองค์กรแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งและความสามัคคีปรองดองของสมาชิก ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อนายจ้าง รวมถึงการประสานประโยชน์ให้เกิดการยอมรับเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่สำคัญ บนพื้นฐานระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี ผมขอให้ทุกท่านร่วมมือร่วมใจกันเพื่อขับเคลื่อนองค์กรและประเทศชาติต่อไป” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย