กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือหน่วยงานพันธมิตร ลุยงานเชิงรุก ลงพื้นที่ หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต สร้างแนวร่วมภาคเอกชน ผู้ค้าและนักท่องเที่ยว ไม่สนับสนุนสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับ จังหวัดภูเก็ต กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดภูเก็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ด่านศุลกากรภูเก็ต สำนักงานพาณิชย์จังหวัดภูเก็ต ที่ทำการปกครองจังหวัดภูเก็ต สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ต สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต เดินหน้าเชิงรุกสร้างแนวร่วมเคารพสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาให้กับผู้ค้า ประชาชนทั่วไป ตลอดจนนักท่องเที่ยว ณ บริเวณหาดป่าตอง ตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566

 

นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า “กรมทรัพย์สินทางปัญญาใหความสำคัญ กับการปองกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า สร้างบรรยากาศการค้าและการลงทุน รวมทั้งปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากอันตรายที่เกิดจากการบริโภคสินค้าปลอม ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก”

เพื่อสานต่อภารกิจดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง กรมทรัพย์สินทางปัญญา จึงร่วมกับ หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภายในบริเวณชายหาดป่าตอง และรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่ผู้ค้า ผู้ประกอบการ ประชาชนทั่วไป ตลอดจนนักท่องเที่ยว ให้ตระหนักถึงผลกระทบและความเสียหายจากการใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ด้อยคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตราย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน โดยการบูรณาการทำงานในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีเจตนารมณ์ร่วมกันในการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง โดยในปี 2565 มีการปราบปรามและดำเนินคดีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งสิ้น 5,827 คดี ของกลางจำนวน 2,308,176 ชิ้น มูลค่าความเสียหายรวม 1,058,201,923 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 พบว่า จำนวนของกลางลดลงกว่า 54.96% ซึ่งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ถือเป็นแนวร่วมสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย

นายอาวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ค้าที่นำสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาจำหน่ายมีความผิดตามกฎหมาย โดยการจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ปรับสูงสุด 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับสูงสุด 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากประชาชนพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 02-547-4702 หรือสายด่วน 1368 หรือ www.ipthailand.go.th