สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ตั้งประชาคมเพื่อผลักดันอาเซียนเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยมีผู้บริหารจากเอสซีจีและปิโตรนาสเป็นประธานร่วม เพื่อมุ่งสู่การลดปริมาณปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างเป็นรูปธรรมและเท่าเทียม
ประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ครั้งล่าสุด ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เปิดตัว “ประชาคมผู้นำอาเซียนเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างเท่าเทียม” (The ASEAN’s Leaders for Just Energy Transition) โดยมี นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี และ นายมูฮัมหมัด เทาฟิก ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทปิโตรนาส ร่วมเป็นประธาน เพื่อผลักดันกิจกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียน
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า “ประชาคมดังกล่าว เป็นการรวมตัวของบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ พลังงาน การเงิน การเกษตร วัสดุ สาธารณูปโภค และยานยนต์ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ ขับเคลื่อนการดำเนินงานเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด และการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนอย่างไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ภูมิภาคอาเซียน ประกอบด้วยประชากร 680 ล้านคน มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็ว ในช่วงที่ผ่านมามีการใช้พลังงานฟอสซิลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่มีการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากกว่าเท่าตัว ถึงแม้หลายประเทศพยายามผลักดันนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน และลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน อย่างไรก็ตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 และวิกฤติพลังงานโลก เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
“จากการที่ทั่วโลกมีเป้าหมายร่วมกันมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 แต่ละประเทศจะต้องหาวิธีการที่เหมาะสมของตัวเองในการเปลี่ยนผ่านพลังงาน นอกเหนือจากการเริ่มลงมือทำในทันทีแล้ว ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ในระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ยังเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนอนาคตของการใช้พลังงานในภูมิภาคนี้” นายรุ่งโรจน์ กล่าว
นายมูฮัมหมัด เทาฟิก ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทปิโตรนาส กล่าวว่า “ในฐานะที่ปิโตรนาสเป็นผู้ให้บริการพลังงานในกลุ่มประเทศอาเซียนรายสำคัญ เราเห็นชัดว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเป็นความท้าทายของภูมิภาค ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสอันมหาศาลเช่นกัน ถ้าทุกประเทศในอาเซียนร่วมมือกัน ประชาคมนี้มุ่งหมายที่จะเป็นศูนย์กลางให้ทุกภาคส่วนที่มีเจตนารมณ์เดียวกัน ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน มาร่วมมือกันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างเท่าเทียม”
ประชาคมผู้นำอาเซียนเพื่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างเท่าเทียม จะผลักดันให้เกิดเวทีความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนทั่วโลก เพื่อกำหนดกรอบการขับเคลื่อนในอาเซียน โดยนำแนวคิดจากทั่วโลกมาปรับใช้ เกิดการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านพลังงานในภูมิภาคอาเซียน และการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างอุตสาหกรรมต่าง ๆ กับผู้มีบทบาทสำคัญ อาทิ ผู้กำหนดนโยบาย ผู้บริหารอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียน