กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยทรรศนะต่อคำตัดสินของ WTO กรณีสหรัฐฯ ยื่นฟ้องจีนภายใต้กระบวนการระงับข้อพิพาทของ WTO เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ที่สรุปว่า การบริหารจัดการโควตาภาษีในสินค้าข้าวและข้าวโพดของจีนขัดกับข้อผูกพันใน WTO ซึ่งส่งผลให้จีนต้องปรับปรุงการบริหารโควตาให้โปร่งใสและเป็นธรรมมากขึ้นนั้น อาจเป็นโอกาสของไทยขยายการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนได้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 องค์การการค้าโลก (WTO) ได้เผยแพร่รายงานคำตัดสินกรณีที่สหรัฐฯ ยื่นฟ้องจีนภายใต้กระบวนการระงับข้อพิพาทของ WTO เมื่อเดือนธันวาคม 2559 ว่า การบริหารจัดการโควตาภาษี (Tariff Rate Quota : TRQs) ในสินค้าข้าวสาลี ข้าวเมล็ดสั้น กลาง และยาว และข้าวโพดของจีนขัดกับข้อผูกพันของจีนใน WTO มีการกำหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์การจัดสรรโควตาที่คลุมเครือ ไม่โปร่งใส โดยขาดการเผยแพร่รายละเอียดและแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งมีการกำหนดเงื่อนไขที่ขัดกับหลักการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เช่น การกำหนดให้ผู้ที่นำเข้าข้าวสาลีและข้าวโพดภายใต้โควตาจะต้องผลิตในโรงงานของตนเองเท่านั้น และการไม่อธิบายรายละเอียดในการแบ่งปริมาณโควตาสำหรับเอกชนและรัฐวิสาหกิจ โดยที่ผ่านมา China National Cereals, Oils and Foodstuffs Corporation (COFCO) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่จัดสรรโควตานั้น ไม่จำเป็นต้องคืนโควตาที่ไม่ได้ใช้ ซึ่งเป็นการปิดโอกาสไม่ให้เอกชนได้รับการจัดสรรโควตาในส่วนนั้น ดังนั้น คำตัดสินของ WTO ข้างต้น จะส่งผลให้จีนต้องปรับปรุงการบริหารโควตาให้มีความโปร่งใส คาดการณ์ได้ และเป็นธรรมมากขึ้น โดยต้องมีเงื่อนไขและกระบวนการที่ชัดเจน และไม่ขัดขวางการใช้ปริมาณโควตาให้เต็มจำนวน จึงน่าจะเป็นโอกาสของไทยในการขยายการส่งออกข้าวไปจีนเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ จีนมีการกำหนดโควตาภาษี โดยมีปริมาณโควตาปีละ 5.32 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเมล็ดสั้นและเมล็ดกลาง 7 รายการ 2.66 ล้านตัน และข้าวเมล็ดยาว 7 รายการ 2.66 ล้านตัน อัตราภาษีสำหรับสินค้าที่นำเข้าภายใต้โควตาอยู่ที่ร้อยละ 1 และ 9 สำหรับปริมาณนำเข้าที่เกินโควตาจะเสียภาษีในอัตราร้อยละ 65
นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า คำตัดสินของ WTO เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ ซึ่งกรมฯ จะติดตามความคืบหน้ากรณีพิพาทนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกระบวนการระงับข้อพิพาทใน WTO ยังเปิดโอกาสให้มีการอุทธรณ์ได้ ซึ่งหากจีนอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าวก็อาจใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี หรือมากกว่านั้น จึงจะทราบผลการตัดสินขั้นสุดท้าย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแต่งตั้งสมาชิกองค์กรอุทธรณ์จำนวน 6 ใน 7 ตำแหน่งที่จะว่างลงในปีนี้ด้วย เนื่องจากจนถึงขณะนี้สมาชิก WTO ยังไม่สามารถเริ่มกระบวนการคัดเลือกสมาชิกองค์กรอุทธรณ์ในตำแหน่งที่ว่างลงได้ เพราะมีการเชื่อมโยงกระบวนการคัดเลือกกับการหารือเพื่อปฏิรูปองค์กร WTO ในภาพรวม
ทั้งนี้ ในปี 2561 ไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก รองจากอินเดีย โดยไทยส่งออกข้าวสู่ตลาดโลกในปริมาณกว่า 11,089 ล้านตัน เป็นมูลค่า 5,619.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 8.34 เมื่อเทียบกับปี 2560 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.02 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย โดยมีตลาดส่งออกหลัก อาทิ อาเซียน เบนิน และ จีน เป็นต้น
———————————
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์