บจธ. เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) สู่การปฏิบัติเพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อความสุขของคนไทย เน้นสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการกระจายการถือครองทรัพย์สินให้มีความเป็นธรรม เพื่อสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม
นายขจรศักดิ์ เจียรธนากุล ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. เปิดเผยถึงการดำเนินงานของ บจธ. ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีว่า ปัจจุบัน บจธ. ได้สนับสนุนให้องค์กรชุมชนหรือชุมชนในพื้นที่ภาคเหนือ จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ มีการบริหารจัดการที่ดินรวมกัน ทั้งที่ดินทำกินและที่ดินสำหรับการอยู่อาศัยในรูปแบบแปลงรวม โดยให้จัดตั้งสหกรณ์การเกษตร จำนวน 4 แห่ง และ บจธ. ได้จัดซื้อที่ดินไปแล้ว จำนวน 157 แปลง เนื้อที่ประมาณ 703 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดประมาณ 810 ไร่ เพื่อให้เกษตรกร จำนวน 499 ครัวเรือน เช่าซื้อที่ดินกับ บจธ. ในอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 3 ต่อปี ผ่อนระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี เพื่อให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินเป็นของตนในรูปแบบนาแปลงรวม
“ที่ผ่านมา บจธ. ได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาการสูญเสียสิทธิที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจนได้ ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรไปแล้วจำนวน 302 ราย ที่มีปัญหาที่ดินหลุดมือไปแล้ว โดยรวมประมาณ 2,394 ไร่ ทำให้เกษตรกรมีที่ดินทำกินกลับคืนมาเป็นของตนเอง ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักของเราในการบริหารจัดการที่ดิน โดยมีรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดตั้งธนาคารที่ดิน โครงการต้นแบบบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร โครงการแก้ไขปัญหาสูญเสียสิทธิในที่ดินของเกษตรกรและผู้ยากจน โครงการนำร่องธนาคารที่ดิน ในพื้นที่นำร่อง 5 ชุมชน และโครงการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาที่ดินจากการดำเนินนโยบายของรัฐ”
ผู้อำนวยการ บจธ. ยังกล่าวอีกว่า การจัดตั้งธนาคารที่ดินนั้น ถือเป็นกลไกสำคัญในการกระจายการถือครองที่ดินที่เป็นธรรมและยั่งยืน ทำให้มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างเหมาะสม เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจและบริหารจัดการที่ดินเพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับเกษตรกรและผู้ยากจนให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเพื่อให้องค์กรชุมชนเกษตรกรได้มีการบริหารจัดการที่ดินร่วมกัน มีสิทธิในที่ดินทำกินและที่ดินสำหรับอยู่อาศัยในรูปแบบนาแปลงรวม
“บจธ. ยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ต้องการใช้ประโยชน์ในที่ดิน กับที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หรือยังใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ ภายใต้ชื่อโครงการตลาดกลางที่ดิน โดยมีระบบเว็บไซต์ตลาดกลางที่ดินทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สนใจรับบริการ ซึ่งนอกจากความช่วยเหลือทางการเงินอย่างสินเชื่อต่างๆ และทุนเพื่อการประกอบการด้านการเกษตรแล้ว เรายังมีบริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และมีส่วนงานที่ทำหน้าที่คัดกรองที่ดินและกลุ่มเกษตรที่มีคุณภาพให้แก่ทั้งสองฝ่าย พร้อมติดตามดูแลการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เพื่อความมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรม ความสะดวก และประโยชน์สูงสุด” ผู้อำนวยการ บจธ. กล่าว
สำหรับเกษตรกรและผู้ยากจนที่ต้องการรับการช่วยเหลือเงินสินเชื่อดังกล่าว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.labai.or.th หรือส่งอีเมลล์ที่ labai@labai.or.th หรือโทรติดต่อได้ที่ โทร 0 2278-1244, 02278-1648 ต่อ 601,602,610 มือถือ 09 2659 1689
————————————–