อีสท์ วอเตอร์ ชูธงธุรกิจน้ำครบวงจร ปี 2561 พุ่งเป้านิคมอุตสาหกรรมทุกพื้นที่ทั่วประเทศโดยเฉพาะอีอีซีเน้นรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นอีก 10 ปี เตรียมส่ง Smart Water เพื่อบริหารจัดการน้ำแบบเบ็ดเสร็จ สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในระยะยาว คาดการเติบโตไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 6
จิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยว่าปี 2561 อีสท์ วอเตอร์พร้อมให้บริการน้ำแบบครบวงจร เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมตามนโยบายโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2570 จะมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้นถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของอีสท์ วอเตอร์จะเป็นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลด้านบวกต่อการเติบโตของธุรกิจหลัก จะมีแนวโน้มตามภาวะเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการใช้น้ำดิบในอุตสาหกรรม เช่น กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า โรงเหล็ก นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมเกิดขึ้นใหม่และการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมจะช่วยให้ธุรกิจน้ำดิบเติบโตไปด้วย
ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) น่าจะเข้ามามีบทบาทต่อทั้งธุรกิจน้ำดิบและน้ำประปาของบริษัทฯ ในอีก 1-2 ปี ข้างหน้าตามนโยบายรัฐบาล ซึ่ง อีสท์ วอเตอร์ได้วางแผนและดำเนินการพัฒนาระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อรองรับความต้องการใช้น้ำดังกล่าวเอาไว้แล้ว
สำหรับในปีนี้ อีสท์ วอเตอร์ จะเริ่มให้บริการน้ำแบบครบวงจรเพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยมองหาโครงการลงทุนใหม่ๆ ในประเทศและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการให้บริษัทฯ เข้าไปช่วยวางระบบน้ำให้เกิดประสิทธิภาพและคุ้มค่าสูงสุด ล่าสุดเตรียมจับมือกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำแบบครบวงจรภายในพื้นที่อุทยานนวัตกรรมดิจิทัล หรือ Digital Park Thailand สนับสนุนข้อมูลและแนวทางในการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำดิบ การให้คำแนะนำในการวางระบบน้ำอุตสาหกรรม ระบบบำบัดน้ำเสีย และน้ำรีไซเคิล ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด การรุกธุรกิจใหม่นี้จะเป็นปัจจัยทำให้การเติบโตรายได้เพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา
นอกจากนี้อีสท์ วอเตอร์ ยังได้พัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย Smart Water เพื่อให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ สามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้น้ำ คุณภาพ แรงดัน และการรั่วซึมในระบบได้แบบ real-time รวมถึงการชำระค่าน้ำ โดยทั้งหมดนี้สามารถดำเนินการได้ผ่าน Application หรือเว็บเพจ ทำให้เพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำ ลดปริมาณน้ำสูญเสียและต้นทุนในการดูแลรักษา พร้อมการแจ้งเตือนอัตโนมัติหากมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้นในระบบ ด้วยการควบคุมทั้งระบบจาก Control Center เพียงจุดเดียว เพื่อรองรับธุรกิจบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร และการขยายพื้นที่ให้บริการของอีสท์ วอเตอร์ในอนาคตอีกด้วย