นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากปัญหาสถานการณ์ปาล์มน้ำมันที่ไม่ปกติในปีนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำอยู่ที่ประมาณ 2.00 บาท/กก. เนื่องจากปริมาณผลผลิตมากผิดปกติ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ กรมฯ จึงได้มีการหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สมาคมโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม กลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม กฟผ. และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ในการดำเนินนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในปัจจุบันราคาผลปาล์มปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 3.50 บาท/กก. และราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) อยู่ที่ 19.50- 20.00 บาท/กก.ซึ่งนโยบายที่ดำเนินการไปแล้ว โดยได้ดูดซับผลผลิตน้ำมันปาล์มส่วนเกินออกจากตลาดไปผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งในระยะที่ 1 ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 160,000 ตัน ไปผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งรับมอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนเม.ย. และระยะที่ 2 ตั้งเป้าหมาย 200,000 ตัน ซึ่งมีการเสนอขายน้ำมันปาล์มดิบแล้ว 66,250 ตัน รวมแล้ว กฟผ.ได้ดำเนินการดูดซับน้ำมันปาล์มออกจากระบบไปแล้วกว่า 226,250 ตัน นอกจากนี้ยังได้มีการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 โดยขณะนี้สามารถใช้ในรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถกระบะที่ค่ายรถยนต์ให้การรับรองแล้ว รวมทั้งสิ้น 835 รุ่น และ รถโดยสารสาธารณะของ ขสมก.และ บขส. จำนวน 2,075 คัน โดยราคาจำหน่ายต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 5 บาท/ลิตร ซึ่งปัจจุบันมีสถานีบริการจำหน่ายน้ำมัน B20 ทั้งสิ้น 1,113 แห่ง รวมทั้ง ยังได้สนับสนุนการใช้น้ำมัน B100 ในภาคเกษตรกร โดยตั้งเป้าหมายการผลิตอยู่ที่ 9 ล้านลิตร/วัน (ปัจจุบันการผลิต 7.68 ล้านลิตร/วัน) จากบริษัทผู้ผลิต จำนวน 14 บริษัท ซึ่งจะสามารถดูดซับน้ำมันปาล์มดิบจากระบบได้ถึง 2.82 ล้านตัน/ปี
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาราคาผลปาล์มตกต่ำจนสามารถที่จะผ่านช่วงวิกฤตมาได้ เนื่องจากที่ผ่านมาพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มได้รับผลกระทบจากราคาตกต่ำมาเป็นระยะเวลานาน และในส่วนของความเข้าใจผิดเรื่องราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มขวด กรมฯ ขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบและเข้าใจเจตนารมณ์ว่า กรมการค้าภายในไม่ได้มีคำสั่งหรือบังคับให้ห้างปรับราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสูงขึ้นแต่อย่างใด เป็นเพียงการขอความร่วมมือให้สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ จำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน และคำนึงถึงผลกระทบต่อราคาผลปาล์มที่เกษตรกรขายได้เท่านั้น สำหรับในส่วนของโรงงานสกัดก็ขอให้เสนอราคาที่สอดคล้องกับราคาผลปาล์ม โดยกรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กลไกตลาดปาล์มทั้งระบบในประเทศอยู่ในภาวะสมดุล