ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี ห่วงเด็กอีสานเสี่ยงพัฒนาการสงสัยล่าช้า จับมือเขตสุขภาพเร่งขับเคลื่อนคัดกรอง

ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี และเขตสุขภาพที่ 7 8 9 และ10 ร่วมคัดกรองพัฒนาการเด็กปกติและเด็กกลุ่มเสี่ยงมีพัฒนาการสงสัยล่าช้าในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นคนดี คนเก่ง มีความสุขและเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศ

วัุนที่ 17 มิถุนายน 2562 แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการเปิดประชุมเยี่ยมเสริมพลังพัฒนาการเด็กปฐมวัยระดับภาค ภายใต้โครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ปีงบประมาณ 2562 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขตสุขภาพที่ 7 8 9 และ 10 ณ ห้องประชุมทุ่งศรีเมือง แกรนด์บอลรูม โรงแรมเซ็นทารา อำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี ว่า จากผลการสำรวจพัฒนาการเด็กปฐมวัยของกรมอนามัย ในปี 2542-2557 พบกลุ่มเด็กที่มีข้อสงสัยล่าช้าด้านพัฒนาการมีแนวโน้มที่สูงถึงประมาณร้อยละ 30 โดยเฉพาะด้านการใช้ภาษา รองลงมาคือการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งทักษะทั้งสองด้านเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาสมองและจะส่งผลต่อการเรียนรู้และจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2555 พบว่าเพียงร้อยละ 20 ของพ่อแม่ผู้ดูแลเด็กที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้และการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียนของเด็ก  จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กไทยจำนวนมากมีระดับพัฒนาการตามศักยภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็น  กระทรวงสาธารณสุข  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงกลาโหม รวมถึงองค์กรหลักอื่นๆและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จึงร่วมขับเคลื่อนนโยบายเด็กปฐมวัยไปสู่การปฏิบัติให้เกิดสัมฤทธิ์ผลตามโครงการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558

“ในปี 2558-2561 ที่ผ่านมา ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี ได้ดำเนินงานโครงการดังกล่าว โดยเน้นการสื่อสารความรู้สร้างกระแส สร้างความตระหนักให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เห็นถึงความสำคัญในการคัดกรองส่งเสริม ค้นหา และติดตามดูแลเด็ก ทั้งเด็กปกติและเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีพัฒนาการสงสัยล่าช้าให้ได้รับการดูแลแบบครบวงจร พร้อมทั้งขับเคลื่อนการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนผ่านกลไกสำคัญ ได้แก่ คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการฯคณะอนุกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัยระดับจังหวัด คณะกรรมการ MCHBoard ทีมกุมารแพทย์พัฒนาการเด็กและผู้รับผิดชอบแผนงานกลุ่มวัยสตรีและเด็กระดับจังหวัด ส่งผลให้การดำเนินงานด้านพัฒนาการเด็กปฐมวัยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่การส่งเสริมพัฒนาการเด็กให้สัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ยังต้องอาศัยการประสานความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน   ของสังคม โดยเน้นให้ครอบครัวเป็นแกนหลักในการพัฒนาเด็ก และให้ชุมชนและสังคมเป็นฐานที่มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการพัฒนาเลี้ยงดูเด็กทุกขั้นตอน ให้มีคุณภาพทั้งร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เติบโตอย่างมีคุณภาพ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ทางด้าน นายแพทย์ชาตรี เมธาธราธิป ผู้อำนวยการศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานตัวชี้วัดพัฒนาการภาพรวมทั้งประเทศ ปี 2561 พบความครอบคลุมร้อยละ 81.4 พัฒนาการสงสัยล่าช้า ร้อยละ 16.4 ติดตามร้อยละ 77.9 และสมวัยร้อยละ 95.9 สำหรับในเขตสุขภาพที่ 8 ปี 2561 พบความครอบคลุม ร้อยละ 77.93 พัฒนาการสงสัยล่าช้า ร้อยละ 17.19 พัฒนาการที่อยู่ในระยะติดตาม ร้อยละ 76.07 และมีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ 95.65 ดังนั้น พ่อแม่จึงควรส่งเสริมพัฒนาการ  ของเด็กตามแนวคิด กิน กอด เล่น เล่า เฝ้าดูฟัน โดยให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน ควรกอดลูกทุกวัน เพื่อให้เด็กรับรู้ว่า พ่อแม่รักและหวังดีกับเด็กเสมอ เลือกของเล่นที่มีเสียงและเป็นภาพ และควรเล่านิทานให้ลูกฟังเป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันของลูกตั้งแต่ฟันซี่แรก  ซึ่งการพัฒนาเด็กด้วยวิธีการ กิน กอด เล่น เล่า เฝ้าดูฟัน นอกจากจะทำให้เด็ก มีพัฒนาการสมวัยแล้ว ยังเป็นการสร้างความรัก ความผูกพันให้เกิดขึ้นภายในครอบครัวด้วย

***

ศูนย์อนามัยที่ 8 อุดรธานี