กระทรวงพลังงาน เตรียมพร้อมรับมือ สถานการณ์ราคาน้ำมับดิบในตลาดโลกผันผวน

จากกรณีที่เรือบรรทุกน้ำมัน/เคมี 2 ลำ (เป็นเรือบรรทุกแนฟทา และเมทานอล) ได้รับความเสียหายจากการถูกลอบโจมตีบริเวณอ่าวโอมาน เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา กรณีที่เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกโจมตีห่างจากชายฝั่งอิหร่านประมาณ 14 ไมล์ระหว่างขนส่งสินค้าจากตะวันออกกลางไปยังสิงคโปร์และไต้หวัน นั้น

ซึ่งสรุปได้ว่า กระทรวงพลังงานได้มีการประชุมสอบทานปริมาณสต๊อกน้ำมันสำรองในประเทศแบ่งเป็นชนิดต่างๆดังนี้ เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ดังนี้

1.มีปริมาณเชื้อเพลิงสำเร็จรูปเพียงพอต่อความต้องการใช้ดังนี้

1.1 เบนซิน 12 วัน

1.2 ดีเซล 13 วัน

รวมปริมาณสำรองน้ำมันทั้งหมดเพียงพอต่อความต้องการใช้ภายในประเทศ รวม 50 วัน

2.มีปริมาณน้ำมันดิบเพียงพอต่อการใช้ เพื่อผลิตป้อนตามความต้องการใช้ในประเทศได้ 24 วัน และอยู่ระหว่างขนส่งทางเรือได้อีก 13 วัน

3.รวมปริมาณสำรองน้ำมัน ทั้งหมด ใช้ได้ 50 วัน

4.สามารถผลิตน้ำมันดิบและคอนเดนเสทจากแหล่งในประเทศ ป้อนความต้องการใช้ได้ประมาณ 35%

5.มีสต๊อก LPG พร้อมใช้สำหรับครัวเรือน 20 วัน

ทั้งนี้ โรงแยกแก๊ส ปตท.สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในภาคครัวเรือนโดยไม่ขาดแคลน

สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้  ซึ่งผลจากการซ้อมเตรียมความพร้อมกระทรวงพลังงานมีความมั่นใจว่าประเทศไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันที่พร้อมนำมาใช้ได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ กระทรวงพลังงานมีมาตรการในการกำกับ บริหารปริมาณสำรองให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคน้อยที่สุด