นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เป็นประธานการประชุม มอบนโยบายการปฏิบัติงานปี 2566 แก่ผู้บริหารและบุคลากรในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาทั้งส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ณ ห้องประชุมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก รวมถึงถ่ายทอดออนไลน์ผ่านระบบการประชุม zoom ไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวในโอกาสมอบนโยบายการปฏิบัติงานปี 2566 แก่ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงฯ ว่า “ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมาถือว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รับความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานภายในและภายนอกกระทรวง มากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะระยะเวลาตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เกิดขึ้น จนถึงการเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ที่ถือว่าเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่ประเทศไทยและคนทั่วโลกต้องประสบ แต่เราก็สามารถผ่านสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ มาด้วยดี ซึ่งเหล่านี้เกิดจากทั้งนโยบายในการวางแผนแก้ปัญหาของรัฐบาล ความเข้มแข็งของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดถึงความร่วมมือร่วมใจของผู้ประกอบการและบุคลากรทุกภาคส่วน ที่แม้จะประสบกับปัญหาอุปสรรคและความเดือดร้อน แต่พวกเราก็ต่อสู้และผ่านวันเวลาอันยากลำบากได้ในที่สุด”
สำหรับปี 2566 ที่กำลังจะมาถึง ถือว่าประเทศไทยของเรายังมีความท้าทายให้ต้องพบเจออีกมากมายทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจของโลก ภาวะเงินเฟ้อ ความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเศรษฐกิจไทยอาจเติบโตได้แค่ 3.9-3.5 % การท่องเที่ยวจึงเป็นความหวังเดียวของประเทศไทย ที่จะช่วยผ่อนคลายบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ถดถอยในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี “ผมจึงคาดหวังที่จะให้บุคลากรของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานตามบทบาทภารกิจในความรับผิดชอบมากยิ่งขึ้น ต้องบูรณาการความร่วมมือระหว่างกัน เช่น เรื่อง Sport Tourism การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ต้องวางแผนกำหนดปฏิทินร่วมกันว่าจะเกิดกิจกรรมอะไรเมื่อไหร่
เพื่อให้การจัดงานสามารถส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยอาจจะจัดจำนวน Event ให้น้อยลง แต่เน้นให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ต้องหาทางลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน เช่น ภารกิจบางประการขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) กับของกรมการท่องเที่ยว ต้องกำหนดกันให้ชัดเจนเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด
ดังนั้น ทิศทางในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในระยะต่อจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะมีการปรับบทบาทและภารกิจของหน่วยงานให้ชัดเจน ลดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน มุ่งเน้นการสร้างผลลัพธ์สร้างรายได้ เกิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จะส่งเสริมบทบาทสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด (สทกจ.) ให้เป็นกลไกหลักสำคัญของกระทรวงฯ ในการขับเคลื่อนการพัฒนาท่องเที่ยวและกีฬาในพื้นที่ โดยนำนโยบายจากส่วนกลางไปปฏิบัติในระดับจังหวัด
ในด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการท่องเที่ยวและกีฬาในการฟื้นประเทศ จะให้มีการปรับเพิ่มบทบาทการทำงานเชิงรุกด้านการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ของกระทรวงฯ ซึ่งต้องเพิ่มการสื่อสารภายในและการถ่ายทอดข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ตลอดถึงให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์กระทรวงในฐานะหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ เตรียมความพร้อมเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ได้แก่
Soft Power ในมิติการท่องเที่ยว คือซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลัง และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยจะเชื่อมโยงกับทุกหน่วยเศรษฐกิจ เพื่อวางกลยุทธ์การพัฒนาอย่างครบวงจร ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในแต่ละมิติ, BCG รัฐบาลได้ประกาศให้การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาประเทศด้วยการต่อยอดจากจุดแข็ง แก้ไขจุดอ่อน และเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อโอกาสในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ เพิ่มการจ้างงาน สร้างความมั่นคงแบบทั่วถึง และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน, Medical & Wellness กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะส่งเสริมการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในระดับพื้นที่และการลงทุนระดับ Mega Project รวมถึงการพัฒนาทักษะบุคลากร ส่งเสริมมาตรฐานผู้ประกอบการการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, Sport Tourism การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยวได้โดยนักท่องเที่ยวเชิงกีฬาจะมีการใช้จ่ายสูงและสามารถสร้างโอกาสในการประชาสัมพันธ์ยกระดับสถานที่จัดการแข่งขันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ได้
ทั้งนี้จะผลักดันกิจกรรม Sport Event กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มการท่องเที่ยวช่วง Low Season พร้อมทั้งผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ และผลักดันโครงการ Sport Complex ,Film Industry เพื่อให้ประเทศไทยยังคงได้รับความสนใจจากต่างประเทศในการเดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงจะมีการสนับสนุนพัฒนาศักยภาพบุคลากร, แรงงานที่เกี่ยวข้อง และพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างเมืองภาพยนตร์และบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“และเป้าหมายที่สำคัญของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการยกฐานะกระทรวงให้เป็น “กระทรวงเศรษฐกิจ 100 %” ในอนาคตอันใกล้นี้ หากพวกเราทุกหน่วยงานร่วมมือ ร่วมใจบูรณาการการทำงานร่วมกัน เชื่อมั่นว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะเป็นหน่วยงานที่สามารถนำพาเศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว” รมว.พิพัฒน์ กล่าวในที่สุด