สัมผัสประสบการณ์และเดินทางสู่อนาคต ในงาน “SCG : The Next Chapter Exposition” พื้นที่โชว์เคสนวัตกรรมและโซลูชันสุดว้าว! ตัวช่วยทำให้ทุกชีวิตและโลกดีขึ้นกว่าเดิม
โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรากำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง รุนแรง ใกล้ตัวมากขึ้น เช่น โรคอุบัติใหม่ อากาศแปรปรวน พลังงานขาดแคลน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกชีวิตต้องการตัวช่วย
วันนี้ “เอสซีจี” จึงเสนอโซลูชันแห่งอนาคต เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใหม่ ๆ ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตามแนวทาง ESG 4 Plus ที่พัฒนาขึ้นมาจากความตั้งใจให้ทุกคนใช้ชีวิตที่ดี บนโลกที่เปลี่ยนแปลงไปไม่มีที่สิ้นสุด พร้อมเชิญชวนทุกคนมาร่วมสร้างประสบการณ์และเดินทางสู่อนาคตไปด้วยกัน ในงาน “SCG : The Next Chapter Exposition”
โชว์เคสนวัตกรรมแห่งอนาคต พร้อมเวทีอัพเดทเมกะเทรนด์กับเหล่ากูรู
เริ่มแล้ว! บทใหม่ของการใช้ชีวิตในงาน “SCG : The Next Chapter Exposition” ระหว่างวันที่ 13-16 ธันวาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00-17.30 น. ณ เอสซีจี สำนักงานใหญ่ บางซื่อ (เดินทางสะดวกด้วย MRT ลงสถานีบางซื่อ ทางออก ประตู 2) พบกับนวัตกรรมและโซลูชันแห่งอนาคตมากมายที่ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายและรักษ์โลกไปพร้อมกัน ประกอบด้วย
– พลังงานสะอาดครบวงจร (Energy Transition Solutions) ทุกคนเข้าถึงพลังงานสะอาดได้สะดวก คุ้มค่า รักษ์โลกด้วยโซลูชันพลังงานสะอาดครบวงจร
– โซลูชันสุขภาพและการแพทย์ (Health and Medical Solutions) ตอบโจทย์เทรนด์ดูแลสุขภาพ และสังคมผู้สูงอายุ
– ดิจิทัลโลจิสติกส์ครบวงจร (Digital logistics) บริการขนส่งและซัพพลายเชนครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดย SCGJWD ให้บริการทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ขนส่งหลากหลายทั้งทางบก เรือ ราง อากาศ รองรับสินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ พร้อมเครือข่ายครอบคลุมทั่วอาเซียนและจีน
– นวัตกรรมกรีน (Green Solutions) ลดใช้ทรัพยากร ส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ ภายใต้ฉลาก SCG Green Choice
– สมาร์ทลิฟวิ่ง (Smart Living Solutions) โซลูชันเพื่อการใช้ชีวิตที่สะดวก สบาย สุขภาพดี ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ
– หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Artificial Intelligence Solutions) ลดต้นทุน เวลา แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต
จัดเต็ม! Talk On stage เวทีอัพเดทเมกะเทรนด์ธุรกิจแห่งอนาคตกับกูรูหลาก Gen พร้อม “คุย-คิด-ครีเอท” โซลูชันเจ๋ง ๆ ที่ทำให้การใช้ชีวิตในวันนี้และอนาคตง่ายขึ้น ที่สำคัญ! รักษ์โลก อาทิ วันที่ 13 ธ.ค. 2565 เจาะลึก SCGJWD ดิจิทัลโลจิสติกส์ใหญ่สุดในอาเซียน, Ready for Our Next Chapter เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับธุรกิจในอนาคต, ก่อสร้างยุคใหม่ให้โลกไม่ร้อน” Key content: Green Construction เทคโนโลยี การก่อสร้างสมัยใหม่เพื่อตอบโจทย์ Net Zero วันที่ 14 ธ.ค. 2565
เริ่มด้วย New Norm of Sustainable & Well-being Building, มารู้จัก…SMART LIVING ธุรกิจเพื่อชีวิตอนาคต และ Green Solution for Future construction ล้ำด้วยเทคโนโลยีระดับโลก พลิกโฉมวงการก่อสร้าง สู่สังคมคาร์บอนต่ำ ตามลำดับ ส่วนวันที่ 15 ธ.ค. 2565 พบกับ New Gen’s Innovation Idea for Smart Living และ ESG : เคล็ดลับยกระดับธุรกิจสู่เวทีโลก ปิดวันสุดท้าย 16 ธ.ค. 2565 กับเรื่องราว Innovation & Technology for Better Living & Better World และ Green Mission ภารกิจสีเขียว
เปิดมุมมองใหม่ ผู้คนมีชีวิตดีขึ้น พร้อมดูแลโลกไปด้วยกัน
ไม่ไปไม่ได้แล้ว! เพราะผู้เข้าชมงาน “SCG : The Next Chapter Exposition” ต่างรู้สึก Wow! ไปกับนวัตกรรมและโซลูชันที่เอสซีจีนำเสนอ รวมถึงได้เปิดมุมมองและได้รับความรู้ใหม่ๆ โดยน้อง ๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา บอกว่า งานนี้สะท้อนให้เห็นว่าเอสซีจีเป็นบริษัทที่ทันสมัย มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่ส่วนใหญ่เน้นในเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงอยากเชิญชวนทุกคนมาชมงานนี้ เพื่อจะได้เปิดมุมมองและเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ
สอดคล้องกับความเห็นของนางสาวกรนิษฐ์ ตังอังสนากุล ฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัทไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด ที่มองว่า งานนี้น่าสนใจมาก จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาชม ซึ่งจะพบว่าทุกนวัตกรรมของเอสซีจี คิดค้นขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีและสะดวกสบายมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถดูแลโลก รวมทั้งรักษาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันได้ ยึดแง่มุมในเรื่องของความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลดใช้วัสดุ การนำขยะกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงเรื่องพลังงานทางเลือก
ชวนสัมผัสประสบการณ์ ว้าว! ด้วยตัวเอง นำไปเป็นไอเดียในองค์กร
ด้านกลุ่มพนักงานในเครือ DBMS บอกว่า งานนี้ทำให้เห็นว่าเอสซีจีมองถึงนวัตกรรมและมีการพัฒนาด้านต่าง ๆ เยอะมาก จากเดิมที่คิดว่ามีแค่เรื่องก่อสร้าง หรือแพคเกจจิ้ง โซลูชันที่ชอบมากคือ ดิจิทัล โลจิสติกส์ ซึ่งสามารถตรวจจับความง่วงได้ เพราะช่วยอัตราความเสี่ยงของคนขับรถได้ และยังมีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้พิการ รวมถึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตในอนาคต จึงอยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่มีความว้าว! มาก ๆ ในงานนี้ด้วยตัวเอง
ขณะที่ นายเอกพัฒน์ หอมสมบัติ จากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา บอกว่า เป็นโอกาสดีที่ได้เข้าชมงานนี้ ทำให้เห็นว่าเอสซีจีมีโซลูชันต่าง ๆ มากมาย มีนวัตกรรมที่นำมาสนับสนุน ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิต ช่วยลดการใช้พลังงาน ที่สำคัญสามารถทำได้จริง โดยสิ่งที่ชอบมากที่สุดเป็นเรื่องนวัตกรรม กรีน ที่เอสซีจีเป็นทั้งคนขับเคลื่อน และเป็นสะพานเชื่อมโยงกับคนอื่นในการผลิตให้ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปเป็นไอเดีย และคาดหวังว่าจะเป็นองค์กรที่ทำได้ดีเหมือนเอสซีจี
ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและธุรกิจ มั่นใจสังคมไทยในอนาคตดีขึ้น
ปิดท้ายด้วยนายการุณ กิจคุณาเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ช.พัฒนา คาร์เรนท์ กล่าวว่า ขอชื่นชมเอสซีจีที่มีส่วนร่วมสร้างให้สังคมเปลี่ยนแปลงดีขึ้น ผ่านนวัตกรรมที่หลากหลาย ซึ่งหลังการเยี่ยมชมงานทำให้ได้รับประโยชน์อย่างมาก และมั่นใจได้ว่าสังคมไทยในอนาคตจะดีขึ้น แต่ทุกคนก็ต้องร่วมมือกันในการดูแลรักษาโลกใบนี้ด้วย โดยทุกนวัตกรรมที่นำเสนอมีความน่าสนใจ เพราะคิดตั้งแต่การเริ่มต้นใช้ชีวิตจนถึงวันก่อนสิ้นชีวิต หากได้นำมาใช้ผสมผสานกันตามความจำเป็นของแต่ละคน จะทำให้การดำรงชีวิตสมบูรณ์มากขึ้น นอกจากนี้ ยังตอบโจทย์ในเรื่องของธุรกิจด้วย โดยเฉพาะโซลูชันดิจิทัล โลจิสติกส์ SCGJWD สิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบที่จะช่วยทำให้สังคมในอนาคตดีขึ้น ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ถือเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์และคืนกำไรในกับสังคม
นี่คือ การเดินทางครั้งใหม่ ที่จะทำให้ทุกคนมีชีวิตและโลกที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกโซลูชันที่เอสซีจีพัฒนาขึ้น จะช่วยให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตอย่างประหยัด ปลอดภัย สะดวก และยังส่งต่อทรัพยากรให้คนรุ่นถัดไปตามแนวทาง ESG 4 Plus อีกทั้ง ยังคงมุ่งมั่นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมโซลูชันใหม่ๆ อยู่เสมอ พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว