วันที่ 18 พฤษภาคม 2561 ที่ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบเงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กรมการจัดหางาน จำนวน 40,000 บาท แก่ญาติของนายเชิดศักดิ์ บุรัมสูงเนิน แรงงานไทยที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในโรงงานบริษัท Chin Poon Industrial Co.,Ltd ในไต้หวัน โดยมี นายวิวัฒน์ ตังหงส์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติ
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลสนับสนุนให้แรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างทำงาน และกลับจากต่างประเทศ โดยเมื่อเดินทางไปทำงานแล้วยังให้ความคุ้มครองดูแลอย่างต่อเนื่อง หากประสบปัญหาในต่างประเทศ สำนักงานแรงงานในต่างประเทศที่ประจำอยู่ใน 12 ประเทศ หรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศจะเป็นตัวแทนรัฐบาลในการดูแลแรงงานไทยในต่างประเทศเช่นกัน เช่นกรณีแรงงานไทยที่ประสบภัยจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในโรงงานบริษัท Chin Poon Industrial Co.,Ltd ในไต้หวัน เมื่อไปอย่างถูกต้องแล้วก็จะได้รับการดูแลอย่างเต็มกำลังจากทุกภาคส่วน ซึ่งวันนี้ได้มอบเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศให้แก่ญาติของแรงงานไทยที่เสียชีวิตในต่างประเทศ จำนวน 2 รายคือ
1. นายเชิดศักดิ์ บุรัมสูงเนิน จากจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับสิทธิประโยชน์จากไต้หวัน (สนร.ไทเป) คือ
1) เงินช่วยเหลือจากนายจ้าง 3,284,285 บาท
2) ค่าจัดการศพจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน 117,700 บาท
3) เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน 941,600 บาท
4) เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวัน 271,403 บาท
และยังได้รับสิทธิประโยชน์ในประเทศไทยคือ เงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กรมการจัดหางาน จำนวน 40,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 4,654,988 บาท
2. นายภานุพงศ์ เสงี่ยม จากจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับสิทธิประโยชน์จากไต้หวัน (สนร.ไทเป) คือ
1) เงินช่วยเหลือจากนายจ้าง 3,284,285 บาท
2) ค่าจัดการศพจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน 117,700 บาท
3) เงินทดแทนกรณีเสียชีวิตจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวัน ทายาทจะได้รับเงินเป็นรายเดือน เดือนละ 3,210 บาท จนกว่าจะหมดคุณสมบัติ
4) เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวัน 271,403 บาท
และยังได้รับสิทธิประโยชน์ในประเทศไทยคือ เงินช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กรมการจัดหางาน จำนวน 40,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 3,713,388 บาท
ส่วนอีกรายคือนายฉัตรชัย ขุริดี แรงงานไทยบริษัท Uni-President Glass Industrial Co.,Ltd ซึ่งป่วยจากการได้รับเชื้อโรคจากการรับประทานหอยที่งมได้เองจากคลองระบายน้ำใกล้โรงงาน โดยได้รับสิทธิประโยชน์จากไต้หวัน (สนร.ไทเป) คือ
1. เงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวันตามสิทธิที่ได้รับ
2. เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวันเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาที่นอกเหนือจากการเบิกจ่ายจากกองทุนประกันภัยแรงงงานไต้หวัน 134,654 บาท
3. เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวันเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งกลับประเทศไทย 228,890 บาท
4. เงินช่วยเหลือจากหน่วยงานไทยและไต้หวันซึ่ง สนร.เกาสง ได้โอนให้แก่ทายาทเรียบร้อยแล้ว 196,472 บาท
5. สิทธิประโยชน์เงินทดแทนจากกองทุนประกันภัยแรงงานไต้หวันกรณีทุพพลภาพ จะต้องผ่านระยะเวลา 6 เดือนจึงจะขอรับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวได้
รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 560,016 บาท