กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดประชุมเพื่อหารือแนวทางกรณีกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานบุคคลผู้ต้องสงสัยในระหว่างควบคุมตัว

วันที่ 7 มิ.ย. 2562 เวลา ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม ชั้น 8 นายสมณ์ พรหมรส อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานในการประชุมเพื่อหารือแนวทางการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กรณีกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานบุคคลผู้ต้องสงสัยในระหว่างควบคุมตัว โดยมี นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสุจิตรา แก้วไกร ผู้อำนวยการกองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ นางสาวนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ นางบุญภาดา พึ่งบุญ ณ อยุธยา อรุณเบิกฟ้า ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

สำหรับการประชุมฯ ในวันนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เสนอ เรื่อง ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายและสิทธิในกระบวนการยุติธรรม กรณีกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ทหารซ้อมทรมานบุคคลผู้ต้องสงสัยในระหว่างถูกควบคุมตัว) ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมนำไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอแนะดังกล่าว และจัดทำความเห็นเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

โดยในที่ประชุมมีความเห็นว่า ข้อเสนอแนะมาตรการที่ กสม. เสนอ มีความสอดคล้องกับสิ่งที่กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เช่น การเร่งรัดผลักดันร่าง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ การกำหนดมาตรการป้องกันและกระบวนการในการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานฯ รวมถึงการออกระเบียบเกี่ยวกับการควบคุมตัวตามกฎหมายความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยึดถือหลักการสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบที่จะเสนอให้ กสม. ร่วมบูรณาการการดำเนินงานรวมถึงการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความรวดเร็วในการระงับและยับยั้งการละเมิดสิทธิได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น