ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง
ปริมาณฝนตกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณ จ.ตรัง (112 มม.) จ.สตูล (75 มม.) และ จ.พังงา (61 มม.)
น้ำใช้การแหล่งน้ำทุกขนาด 43,778 ล้าน ลบ.ม. (76%) แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 35,884 ล้าน ลบ.ม. (75%)
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก อยู่ในเกณฑ์ปกติทุกสถานี
ประกาศ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 54/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้
• เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก น้ำท่วมขัง บริเวณ จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ระนอง จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.พังงา จ.ภูเก็ต จ.กระบี่ จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง และจ.สตูล
• เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำปราณบุรี แม่น้ำชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำท่าตะเภา แม่น้ำสวี แม่น้ำตาปี แม่น้ำพุมดวง แม่น้ำตะกั่วป่า แม่น้ำตรัง และแม่น้ำปากพนัง
กอนช. ติดตามการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำอย่างต่อเนื่อง
กรมชลประทาน ได้เข้าไปสนับสนุนภารกิจเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำหลายแห่งหลังน้ำลด พร้อมจับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฟื้นฟูพื้นที่ต่างๆ ดังนี้
• นำรถขุดตีนตะขาบขุดลอก ปรับปรุงคลองส่งน้ำสายใหญ่แม่วัง บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านแลง ตำบลบุญนาคพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
• กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ บริเวณหน้าประตูทดน้ำกลางคลองส่งน้ำสายใหญ่ C1 ในเขตพื้นที่ จังหวัดพิษณุโลก บริเวณ
คลองนครเนื่องเขต บริเวณตลาดโบราณนครเนื่องเขต และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคลองนครเนื่องเขต ตำบลคลองนครเนื่องเขต อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และ อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท เพื่อกำจัดวัชพืช และสิ่งกีดขวางทางน้ำให้สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ บริเวณบ้านหลุม หมู่ที่ 2 บริเวณบ้านวังครก-วังแดง หมู่ที่ 3 และบริเวณ หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านหลุม อำเภอเมืองสุโขทัย ตำบลสวนแตง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ตำบลหน้าโคก อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเร่งระบายน้ำช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหาน้ำท่วม จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ