นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานของไทยและกระทรวงแรงงานและการจ้างงานสาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (Employment Permit System for Foreign Workers : EPS) ฉบับแรกเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2547 และฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่ 5 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2559 โดย MOU แต่ละฉบับมีผลบังคับใช้ 2 ปี โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาและจัดส่งแรงงาน ขณะที่สำนักบริการพัฒนาบุคลากรแห่งเกาหลี (Human Resources Development Service of Korea : HRD Korea) เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนนายจ้างเกาหลีในการดำเนินการนำเข้าแรงงานไทย ทั้งนี้ กรมการจัดหางานมีภารกิจในการส่งเสริมการมีงานทำและคุ้มครองคนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมและเป็นธรรม และเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการกับคนหางานในขั้นตอนการเดินทางจากประเทศไทยไปยังสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) ตามพันธกรณีในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ ระหว่างกระทรวงแรงงานแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งกำหนดเรื่องการเดินทางเข้าประเทศของคนงานว่าหน่วยงานผู้ส่งจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น รวมถึงจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าคนงานสามารถเดินทางเข้าสาธารณรัฐเกาหลีได้ตามวันที่กำหนด
เพื่อให้คนหางานได้รับการบริการที่ดีในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกรมการจัดหางานมีจำนวนน้อยและต้องปฏิบัติหน้าที่ด้านอื่นๆ ด้วย กอปรกับทางสาธารณรัฐเกาหลีต้องการคนงานเป็นจำนวนมาก จึงต้องจัดส่งครั้งละจำนวนหลายคน และมีขั้นตอนในการจัดส่ง ซึ่งการดำเนินการจัดซื้อตั๋วเครื่องบินโดยสารเองนั้น กรมการจัดหางานพบว่ามีความเสี่ยงอยู่ที่ราคาตั๋วในแต่ละรอบการเดินทางของคนงานไม่เท่ากัน เนื่องจากราคาตั๋วต้องคำนึงถึงอัตราแลกเปลี่ยน เทศกาลท่องเที่ยว จำนวนคนเดินทาง และระยะเวลาการโอนเงินของคนงานที่มีรายชื่อเดินทางไปสาธารณรัฐเกาหลีในแต่ละรอบการบิน อีกทั้งบุคลากรยังมีความชำนาญไม่เท่าเอกชน ดังนั้น กรมการจัดหางานจึงมอบหมายให้สายการบินหรือบริษัทเอกชนผู้จำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเข้ามาดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวก สามารถจัดส่งคนงานได้ทันต่อความต้องการของนายจ้างสาธารณรัฐเกาหลี โดยกรมการจัดหางานได้ประกาศเชิญชวนสายการบินหรือบริษัทเอกชนผู้จำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเสนอราคาจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบิน พร้อมจัดบริการการเดินทางแก่คนหางาน เพื่อกรมการจัดหางานจะได้คัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นผู้ให้บริการแก่คนหางานที่จะเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี โดยการคัดเลือกผู้ให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน
ขณะนี้บริษัทเอกชนเดิมที่ให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินเพื่อเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีแก่คนหางานได้หมดสัญญาไปเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา กรมการจัดหางานจึงได้ออกประกาศเชิญชวนเสนอราคาจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินให้แก่คนหางาน เพื่อทดแทนบริษัทเดิมที่หมดสัญญา และในระหว่างที่ยังไม่ได้บริษัทเอกชนรายใหม่เข้ามาดำเนินการ กรมการจัดหางานจำเป็นต้องเข้ามาดำเนินการให้บริการคนหางานไปพลางก่อน เพื่อให้คนงานได้เดินทางตามกำหนดของนายจ้าง และตามภารกิจส่งเสริมการมีงานทำและคุ้มครองคนหางานที่ประสงค์จะเดินทางไปทำงานในต่างประเทศให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายให้เรียกเก็บจากคนหางาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้คนหางานได้เดินทาง เป็นเงินคนละ 12,000 บาท (หนึ่งหมื่นสองพันบาทถ้วน) ประกอบด้วย 1) ค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน 2) ค่าเช่าเหมารถบัสจากกรมการจัดหางานไปส่งสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่จ่ายจริง ทั้งนี้ ค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน กรมการจัดหางาน ได้ดำเนินการซื้อจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยตรงไม่ผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินแต่อย่างใด ซึ่งราคาบัตรโดยสารเครื่องบินจะขึ้นอยู่กับราคากลไกตลาดจำนวนคนหางานที่เดินทางและวันที่ออกบัตรโดยสาร โดยคนหางานที่โอนเงินให้กรมการจัดหางาน คนละ 12,000 บาท ได้เริ่มเดินทางครั้งแรกไปแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา โดยมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามความเป็นจริง เป็นเงินจำนวนคนละ 9,403 บาท และยังมีเงินเหลือคืนให้แก่คนหางานอีก เป็นเงินคนละ 2,597 บาท (สองพันห้าร้อยเก้าสิบเจ็ดบาทถ้วน) ซึ่งคนหางานได้ลงลายมือชื่อรับเงินคืนไปในวันเดินทางเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบราชการ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนหางาน เพื่อคนหางานจะได้เดินทางได้ตามกำหนดระยะเวลาและความต้องการของนายจ้างเกาหลี อันจะเป็นประโยชน์ต่อคนหางาน
สำหรับกรณีที่ยกเลิกการดำเนินการคัดเลือกให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินให้แก่คนหางานเพื่อเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบ EPS นั้น เนื่องจากมีผู้ยื่นข้อเสนอราคามีคุณสมบัติเป็นไปตามประกาศที่กำหนดเพียงรายเดียว กอปรกับการหารือกับกรมบัญชีกลางสรุปได้ว่า การดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการจำหน่ายบัตรโดยสารเครื่องบินให้แก่คนหางานเพื่อเดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลีตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) มิใช่การจัดซื้อจัดจ้าง เนื่องจากไม่ได้เป็นการดำเนินการจัดหาเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุมิได้ใช้เงินงบประมาณหรือแหล่งเงินอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในระเบียบพัสดุ กรณีดังกล่าวค่าใช้จ่ายในการเดินทางเป็นส่วนที่คนหางานต้องจ่ายเอง จึงมิต้องนำระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาบังคับใช้
ตั้งแต่ปี 2547-2562 มีคนหางานที่ไปทำงานภายใต้ระบบ EPS จำนวน 75,286 คน ในประเภทกิจการอุตสาหกรรม เกษตรและปศุสัตว์ ก่อสร้าง และประมง โดยไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมมากที่สุด นางเพชรรัตน์ฯ กล่าว