บอร์ดภาพยนตร์ฯ ไฟเขียวตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนเมืองพัทยา ให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 เมื่อเร็วๆ นี้ ได้พิจารณาเห็นชอบหลักการ (ร่าง) แผนปฏิบัติการการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะอำนาจละมุน รวมถึงเห็นชอบให้ริเริ่มโครงการรางวัลศิลปินส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศในลักษณะอำนาจละมุน เพื่อเป็นการมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้แก่ศิลปิน นักกีฬา และสื่อบันเทิงไทยที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่าน Soft Power ของไทยอย่างสร้างสรรค์ โดยการคัดเลือกบุคลากรไทยในสาขาต่างๆ ที่สร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในระดับนานาชาติ จนได้รับการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้นานาชาติได้รับรู้ถึงศักยภาพของบุคลากรไทยให้เป็นรู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้น ตามที่คณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงในลักษณะอำนาจละมุน (Soft Power) ได้หารือถึงกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อใช้บริหารลิขสิทธิ์สื่อบันเทิง การเผยแพร่และสร้างภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงสู่เวทีโลก จัดประชุมปฏิบัติการ ระดมความคิดเห็นในด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศผ่านสื่อบันเทิงร่วมกับผู้แทนจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ สู่การได้กลยุทธ์ส่งเสริมการผลิตและเผยแพร่สื่อบันเทิงภายใต้หลักการ 7C ทั้งนี้ เพื่อขับเคลื่อนให้แผนงานดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเกิดงานอย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตามจะมีการนำเสนอในที่ประชุมบอร์ดคณะกรรมการ Soft Power ของประเทศไทยในเร็วๆ นี้ต่อไป

รมว. วธ. กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเมืองพัทยาให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ตามที่คณะรัฐมนตรีให้ วธ.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ พัฒนาแผนพัฒนาเมืองพัทยาให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพสร้างรายได้ และศักยภาพเป็นเมืองท่องเที่ยวให้สูงยิ่งขึ้น รวมถึงวธ.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนเมืองพัทยาฯ กับ 13 หน่วยงาน ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เมืองพัทยา กรมการท่องเที่ยว สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟิกไทย สมาคมเครือข่ายผู้สร้างสรรค์วิชาชีพสื่อบันเทิงไทย ตลอดจนให้จัดทำคำสั่งคณะกรรมการภาพยนตร์ฯ เสนอรองนายกรัฐมนตรีลงนามต่อไป

นายอิทธิพล กล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบข้อเสนอมาตรการส่งเสริมการจ้างผลิตวีดิทัศน์ (ดิจิทัลคอนเทนต์) ของต่างชาติ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะส่งเสริมให้บริษัทไทยเติบโตขึ้นด้วยการเพิ่มโอกาสทางการค้า สร้างโอกาสให้บริษัทขนาดเล็ก เปิดโอกาสในการทำงานที่มีคุณภาพสูงระดับนานาชาติในไทย โดยออกมาตรการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ผลิตต่างชาติที่มีการใช้จ่ายเงินที่มาจากต่างประเทศตามกรอบวงเงินที่กำหนด จะได้รับเงินคืนในอัตราส่วนร้อยละ 20 โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ อาทิ ให้เจ้าของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องเป็นคนไทย สถานที่ประกอบตั้งอยู่ในไทย เป็นบริษัทที่มีพนักงานหลักเป็นคนไทยไม่เกินร้อยละ 70 หรือผู้ประกอบการอิสระต้องเป็นคนไทย เป็นต้น เพื่อให้เกิดการจ้างงานในอุตสาหกรรมมากขึ้น บุคลากรของไทยได้รับการพัฒนาทักษะร่วมกับงานระดับโลกที่มีความท้าทาย มีการกระจายรายได้สู่ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น นักเขียน นักออกแบบ นักวาด งานฝีมือ ผู้ผลิตสินค้าของเล่น โปรแกรมเมอร์ ฯลฯ ตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศให้เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในการเป็นประเทศที่มีฝีมือและความสามารถด้านงานสร้างสรรค์ ดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามามากขึ้น