กรม สบส. แนะประชาชนดูแลสุขภาพตามหลักสุขบัญญัติ ป้องกันโรคในช่วงปลายฝนต้นหนาว

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) แนะประชาชนนำหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ ใช้เป็นแนวทางการดูแลสุขภาพในช่วงปลายฝนต้นหนาว ป้องกันโรคจากสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่สภาพร่างกายไม่แข็งแรง

นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม เป็นต้นไป โดยคาดการณ์ว่าจะมีอากาศหนาวเย็นกว่าช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน ที่เรียกกันว่า “ช่วงปลายฝนต้นหนาว” นั้น ในบางพื้นที่ก็มีสภาพอากาศแปรปรวนฝนตกสลับอากาศร้อน และอุณหภูมิเย็นลงในช่วงเช้า

จึงอาจทำให้พี่น้องประชาชนบางรายปรับสภาพร่างกายไม่ทัน เกิดการเจ็บป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคปอดบวม หรือโรคติดเชื้อไวรัส RSV ฯลฯ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้องและพักผ่อนอย่างเพียงพอ อาการก็อาจจะทุเลาลงในระยะอันสั้น แต่ถ้าไม่ดูแลตนเองก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการโรคแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่สภาพร่างกายไม่แข็งแรง ก็อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้

ดังนั้น กรม สบส.จึงขอนำหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ มาแนะให้ประชาขนนำไปปรับใช้เพื่อป้องกันโรคในช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งประกอบด้วย

1) การดูแลรักษาร่างกายและของใช้ให้สะอาด ที่สำคัญจะต้องใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่อับชื้น และให้อบอุ่นเพียงพอ

2) ล้างมือบ่อยๆ และล้างให้สะอาดทั้งก่อนกินอาหารและหลังขับถ่ายทุกครั้ง

3) รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และสะอาด

4) ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

ซึ่งเป็นวิธีการที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายฝนต้นหนาว โดยเน้นให้ประชาชนปฏิบัติจนเป็นนิสัยจะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ได้

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสืบค้นข้อมูลหลักสุขบัญญัติ 10 ประการ หรือสื่อความรู้ด้านสุขภาพได้ที่เว็บไซต์คลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (healthydee.moph.go.th)

หรือคลังสื่อประชาสัมพันธ์กรม สบส. (https://prgroup.hss.moph.go.th) เพื่อนำความรู้ไปใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างเหมาะสมจนเกิดสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป