กรมชลประทาน ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมจัดสรรน้ำให้เกษตรกรได้เพาะปลูกตามแผน

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ต่อไป

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (7 พ.ย.65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 64,099 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุอ่างฯ เป็นน้ำใช้การได้ 40,157 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 77 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน  เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,803  ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำใช้การได้ 14,107 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 78 ของปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน ภาพรวมปริมาณน้ำต้นทุนอยู่ในเกณฑ์ดี

กรมชลประทาน ได้วางแผนบริหารจัดการน้ำฤดูแล้งปี 65/66 ทั้งประเทศ ตามปริมาณน้ำต้นทุนรวม 43,740 ล้าน ลบ.ม. โดยแบ่งเป็นน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม รวม 27,685 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 63 ของปริมาณน้ำต้นทุน  เพื่อสำรองน้ำไว้ต้นฤดูฝนปี 66 รวม 16,055 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 37 ของปริมาณน้ำต้นทุน  จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 65/66 ทั้งประเทศไปแล้ว 862 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการจัดสรรน้ำไปแล้ว 135 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 2 ของแผนฯ

ทั้งนี้ ได้เข้าสู่ฤดูแล้งของพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งภาคกลางแล้ว  จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ เร่งเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำ พร้อมวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในพื้นที่   เฝ้าระวังและเตรียมจัดหาแหล่งน้ำสำรอง พร้อมวางแผนเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเฝ้าระวังในจุดเสี่ยงขาดแคลนน้ำ

ที่สำคัญให้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานในท้องถิ่น  กลุ่มผู้ใช้น้ำ  ทำการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกษตรกรและประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง

เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบริหารจัดการน้ำให้ชุมชน  ให้สามารถมีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ไปตลอดช่วงฤดูแล้งนี้  ตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี65/66  ที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)เห็นชอบ

สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ที่ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ขอให้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด  นำสถิติปริมาณฝนและปริมาณน้ำจากปีที่ผ่านมามาเป็นแนวทางในการวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ควบคู่ไปกับการเก็บกัก พร้อมดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65  ที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด